Home บทความอยู่ออส การเก็บรักษาไวน์ ให้อายุยืน ไม่ให้เสียรสชาติ!

การเก็บรักษาไวน์ ให้อายุยืน ไม่ให้เสียรสชาติ!

by ChaYen
wine cover issue 23

การเก็บรักษาไวน์ ให้อายุยืน หลายท่านอาจเจอปัญหาที่พอเวลาเปิดไวน์มาดื่มแล้ว ดื่มไม่หมด จะทิ้งก็เสียดายจะเก็บไว้ก็ไม่รู้วิธีที่ถูกต้องในการเก็บ

วันนี้ขอแนะนำการเก็บรักษาไวน์ทั้งแบบยังไม่ได้เปิด และเปิดแล้วมาฝากกันครับ เชื่อว่าหลายท่านคงมีคำถามเรื่องการเก็บไวน์ว่าการเก็บไวน์ที่ดีนั้นควรจะเก็บอย่างไร วางขวดแบบไหนเพื่อให้ไวน์ที่ท่านซื้อมาในราคาแพง และไวน์ที่ท่านรักนั้นคงอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เมื่อเปิดดื่มจะได้สุนทรีย์ที่สุด วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีการเก็บไวน์ที่ดีกัน

การเก็บรักษาไวน์

ถ้าเราต้องเก็บไวน์ที่เหลือจากการดื่มไม่ว่าจะเป็นไวน์แดง และไวน์ขาวควรใช้ฝาจุกที่มากับไวน์ขวดนั้นปิดเพื่อไม่ให้อากาศเข้า แล้วเก็บเข้าตู้เย็นที่มีอุณหภูมิ 2-7 องศา ออกซิเจนจะเข้าไปทำปฏิกริยากับไวน์จนทำให้รสชาติเปลี่ยน และไม่ควรเก็บไว้เกิน 2-3 วัน แต่สำหรับไวน์ชั้นดีเราควรจะดื่มให้หมดในครั้งเดียว ซึ่งทางที่ดีก่อนเปิดไวน์แนะนำว่าให้หาเพื่อนรู้ใจมาแชร์ด้วยน่าจะดีกว่า

นอกจากวิธีการเก็บไวน์ที่กล่าวมาาข้างต้นแล้ว การอัดแก๊สก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถเก็บรักษาคุณภาพของไวน์ให้ได้นานยิ่งขึ้น อย่างที่ใช้ตามไวน์บาร์ที่เขาขายกันวันหนึ่งเป็นสิบ ๆ ขวดนั่นเอง แต่ชุดที่ใช้อัดแก๊สนั้นมีราคาสูงไม่เหมาะกับการนำมาใช้ส่วนตัว ซึ่งหลักการทำงานของเครื่องอัดแก๊สก็คือการอัดแก๊สเข้าไปในขวดเพื่อดึงเอาออกซิเจนออกมาแล้วค่อยปิดฝา

การเก็บรักษาไวน์

เทคนิคเก็บไวน์แบบมืออาชีพ

เชื่อว่าหลายท่านคงมีคำถามเรื่องการเก็บไวน์ว่าการเก็บไวน์ที่ดีนั้นควรจะเก็บอย่างไร วางขวดแบบไหนเพื่อให้ไวน์ที่ท่านซื้อมาในราคาแพง และไวน์ที่ท่านรักนั้นคงอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เมื่อเปิดดื่มจะได้สุนทรีย์ที่สุด วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีการเก็บไวน์ที่ดีกัน สิ่งสำคัญอย่างยิ่งของ การเก็บและดูแลรักษาไวน์ที่บ้านให้คงคุณภาพมากที่สุด จำเป็นต้องคำนึงถึง ปัจจัยหลัก ดังนี้

อุณหภูมิ

อุณหภูมิถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการเก็บรักษาไวน์ อย่างที่ทราบกันว่าส่วนใหญ่แล้วไวน์นั้น มักจะผลิตในเมืองหนาวดังนั้นการเก็บที่ดีก็ควรจะเก็บที่อุณหภูมิเย็นด้วยเช่นกัน ดังนั้นอุณหภูมิที่ดีที่สุดควรจะเป็นระหว่าง 12-15 องศาเซลเซียส ไม่ควรเก็บในที่เย็นเกินไป ที่สำคัญไม่ควรร้อนเกิน 25 องศา เพราะจะทำให้คุณภาพของไวน์ลดลง ทั้งกลิ่นและรสชาติ ไปจนถึงทำให้ไวน์เสียไวขึ้น

ซึ่งไวน์แต่ละประเภทจะมีการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ต่างกัน โดยทั่วไปแล้วไวน์แดง (Red Wine) มักเก็บในอุณหภูมิ 15 – 18 องศา ส่วนไวน์ขาว (White Wine) เก็บในอุณหภูมิ 6 – 12 องศา

นอกจากการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่เหมาะสมแล้ว หรือเป็นคล้ายๆกับอุณหภูมิในห้องใต้ดินของผู้ผลิตไวน์ส่วนใหญ่นั้นเอง การเก็บในอุณหภูมิที่คงที่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน สำหรับประเทศที่มีอากาศร้อน การเก็บไวน์ไว้ที่อุณหภูมิห้องอาจจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่นัก

ความชื้น
การเก็บรักษาไวน์

ความชื้นที่มากหรือน้อยเกินไปนั้นจะส่งผลกระทบต่อไวน์เป็นอย่างมาก ความชื้นที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 55-75% เนื่องจากความชื้นนี้จะส่งผลโดยตรงต่อความยืดหยุ่นของจุกคอร์ก (Cork) หากเก็บไวน์ไว้ในความชื้นที่เหมาะสม จะทำให้จุกคอร์กนั้นขยายตัวภายในคอขวด เพื่อปิดไม่ให้ไวน์ระเหยออกมา (ความชื้นที่ดีที่สุดคือ 60%) ซึ่งหากแห้งกว่านี้จะส่งผลให้ ฉลาก หรือจุกคอร์กแห้งได้ แต่ถ้าหากมีความชื้นมากกว่านี้แล้วละก็ จะส่งผลให้มีเชื้อรามา เกาะที่ขวดได้นั้นเอง

ถ้าหากความชื้นน้อยเกินไปจะทำให้จุกคอร์กแห้ง หดตัว ไปจนถึงมีผงของจุกคอร์กร่วงไปผสมกับไวน์ภายในขวดได้ ส่งผลให้อากาศไปสัมผัสกับไวน์ในปริมาณที่มากจนเกินไป จนทำให้เกิดการออกซิเดชัน (Oxidation) ทำให้ไวน์มีรสชาติที่เปลี่ยนไป หรือเสียไวขึ้น และถ้าหากเก็บไวน์ในที่ชื้นจนเกินไปจะส่งผลกระทบต่อฉลากไวน์แสนโปรของคุณ ให้เปื่อยยุ่ยจนเกิดความเสียหาย หรือไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์

““ไวน์” (Wine) จัดเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่หลาย ๆ ท่านหลงไหลในกลิ่น และรสชาติ ที่แสนวิเศษ ทุกครั้งที่ได้ดื่ม ได้สัมพัส ได้กลิ่น จะทำคุณหลงไหล การผลิตไวน์ให้ออกมาสมบูรณ์แบบนั้น ต้องผ่านกระบวนการที่ซับซ้อน ”

ChaYen
แสง

การที่ไวน์โดนแสงนั้นจะมี UV อยู่และแสง UV นั้นจะทำให้พวกสารต่างๆในไวน์นั้นหายไป และส่งผลให้คุณภาพของไวน์นั้นแย่ลง ควรเก็บไวน์ให้พ้นจากแสงแดด เพราะแสงสว่างที่มากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อรสชาติไวน์ให้ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ดังนั้นเราจะสังเกตุได้ว่าไวน์มักจะบรรจุอยู่ในขวดที่มีสีเข้ม แต่การที่ไวน์ถูกบรรจุอยู่ในขวดที่มีสีเข้ม ฉะนั้นควรเก็บจากที่ห่างไกลจากแสงแดด นั้นเอง ซึ่งในสมัยก่อนนั้น มีเรื่องเล่าว่านัดบวชนั้น มักจะนำไวน์ที่ตัวเองชื่นชอบไปซ่อนไว้ในตู้ด้วย

กลิ่น
การเก็บรักษาไวน์

อย่างสุดท้ายคือ “กลิ่น” เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการเก็บไวน์ไว้ในที่ ๆ มีกลิ่นไม่พึงประสงค์นั้น จะทำให้บรรยากาศในการดื่มด่ำไวน์ของคุณลดลงทันที สุดท้ายนี้ การที่จะเลือก “ตู้แช่ไวน์” (Wine Cellar) มาดูแลไวน์แสนรักของคุณ อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยหลักตามที่กล่าวมาข้างต้น ส่วนฟังก์ชั่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์ การวางขวดในแนวตั้ง หรือแนวเฉียง ก็สุดแล้วแต่ความชอบ

วางขวดแนวตั้งหรือแนวนอน

ทางที่ดีที่สุดคือการวางนอน เพราะในการเก็บรักษาไวน์นั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาสภาพของจุกคอร์กนั้นเอง ในการวางนอนนั้นจะทำให้มีไวน์ไปสัมผัสกับจุกคอร์กตลอดเวลา ทำให้จุกคอร์กไม่แห้ง ซึ่งถ้าหาก จุกคอร์กแห้งแล้วละก็ อาจจะเกิดการคอร์กแตกได้ และส่งผลให้อากาศเข้าไปในไวน์ได้และ เปลี่ยนจากไวน์ชั้นเลิศให้กลายเป็นน้ำส้มสายชูได้เลยทีเดียว

และถ้าหากทิ้งไวน์นอนไว้เป็นเวลานานแล้วละก็ (3 ปีขึ้นไป) ก่อนดื่มอย่าลืมเปิดขวดแล้ววางตั้งทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมงละ เพื่อให้ตะกอนไวน์ลงมานอนอยู่ที่ก้น เราจะได้ไม่ต้องกินตะกอนไวน์ลงไป แต่หากคุณมีแผนที่จะดื่มไวน์ตัวนี้ภายใน 1-2 ปีแล้วละก็วางตั้งไว้ได้ไม่น่ามีปัญหาแต่หากวางนอนได้ก็จะดียิ่งกว่า แต่ถ้าหากเป็นไวน์แบบสกรูแคป หรือเเบบหมุนเปิดแล้วละก็สามารถที่จะเก็บด้วยการวางตั้งได้เช่นกัน เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องจุกคอร์กแตกนั้นเอง

การเก็บไวน์ที่ยังไม่ได้เปิด

ก่อนอื่นต้องดูว่าไวน์ขวดนั้นมาจากไหน ใครเป็นคนผลิต อีกอย่างต้องรู้รสชาติของไวน์ด้วยว่าควรจะเก็บ ไว้นานแค่ไหนถึงจะเหมาะ ไม่ใช่ว่าไวน์แพงแล้วเราจะเก็บไว้ได้นาน หรือว่าไวน์ถูก เราเก็บไว้นานแล้วมันจะอร่อย มันไม่ใช่อย่างนั้น อย่างเช่น ไวน์โลกใหม่ควรเก็บไว้อย่างน้อย 3-5 ปี ก่อนนำมาดื่ม

ส่วนไวน์โลกใหม่ที่มีต้นองุ่นเก่าแก่ก็ควรเก็บไว้ประมาณ 5-15 ปี สำหรับไวน์ฝรั่งเศสจะมีระยะเวลาในการเก็บตั้งแต่ 5-50 ปี มันขึ้นอยู่กับชนิดของไวน์แต่ละชนิด และน้ำกรดในไวน์ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งเซียนไวน์จะรู้หลังจากที่ได้ชิมแล้วว่า ไวน์ขวดนั้นควรจะเก็บไว้นานแค่ไหน หรืออาจจะคำนวณจากความชอบส่วนตัว อย่างบางคนชอบดื่มไวน์แรงก็ไม่ต้องเก็บนาน ถ้าคนชอบไวน์ หอม นุ่ม ก็ให้เก็บไว้นานหน่อย

การเก็บรักษาไวน์

ไวน์ขาวก็เช่นกัน อย่างเบอร์กันดีเขาก็จะเก็บกันอยู่ที่ 5-10 ปี แต่ถ้าเป็นไวน์ขาวที่มาจากโลกใหม่ก็ควรจะเก็บไว้ 3-5 ปี ส่วนมาก แต่ถ้าเป็นโรเซ่ควรเก็บไว้ไม่เกิน 2 ปีเพราะไวน์ชนิดนี้ไม่เหมาะที่จะเก็บไว้นาน

ส่วนการเก็บไวน์นั้นควรเก็บไว้ในห้องที่ไม่มีแสงแดดส่อง อุณหภูมิอยู่ที่ 7-15 องศา และไม่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิมากจนเกินไป ยิ่งเป็นอุณหภูมิที่คงได้ที่ยิ่งดี แต้ถ้ามีไวน์มากควรทำเป็นห้องเก็บไวน์ที่ควบคุมอุณหภูมิได้ ยิ่งอยู่ใต้ดินมันจะดีเพราะอุณหภูมิมันจะคงที่มากขึ้น ความเย็นมันจะไม่สูญหาย

การเก็บรักษาไวน์ ที่ดี นั้นจึงควรเก็บไว้ในที่มืดอย่างห้องใต้ดิน หรือในตู้ไวน์ และอุณหภูมิที่ 12-15 องศาเซลเซียส และมีความชื้น ระหว่าง 55-75% และวางในแนวนอนนั้นเอง

แต่ปัจจุบันได้มีตู้เเช่ไวน์ ชั้นเลิศออกมาขายมากมายซึ่งราคาก็จับต้องได้ง่ายอีกด้วย ดังนั้นหากคุณจะชื่นชอบการสะสมไวน์แล้วละก็ การลงทุนในตู้ไวน์สักตู้ย่อมเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน เพราะคุณคงไม่อยากให้ไวน์ขวดละหลายหมื่นของคุณต้องเสื่อมสภาพไป อย่างแน่นอน

Related Articles