Home บทสัมภาษณ์ การใช้ภาษาอังกฤษ  แบบธรรมชาติ และความสุข

การใช้ภาษาอังกฤษ  แบบธรรมชาติ และความสุข

by ChaYen
ครูโจ

การใช้ภาษาอังกฤษ  ธรรมชาติ และความสุข ผมเชื่อว่าหลายคนที่เคยได้ยินชื่อหรือเห็นหน้าครูท่านนี้ คงนึกอ๋อกันหมด เพราะหากพูดถึงครูสอนภาษาอังกฤษที่เป็นคนไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ผล IELTS มีค่าต่ออนาคตเช่นนี้

ประสบการณ์การใช้ภาษาอังกฤษ  ธรรมชาติ และความสุข

ชื่อของครูโจคง ต้องอยู่ในอันดับแรกๆ อย่างไม่ต้องสงสัย ความสำเร็จของนักเรียนรุ่นต่อรุ่นที่ได้มาเรียนกับครูท่านนี้แบบศึกษาสัญจรที่ศูนย์อาหารของห้าง Broadway Shopping Centre เป็นตัวการันตีถึงความรู้ความสามารถและความใส่ใจที่ครูมีต่อนักเรียนทุกคน ซึ่งนอกเหนือจากความรู้ด้านภาษาที่ได้ติดตัวกลับไปแล้ว ยังได้ปรัชญาการใช้ชีวิตอย่างมีสติกลับบ้านไปอีกด้วย หรือหากใครมีปัญหาชีวิต ครูท่านนี้ก็ยังเปรียบเสมือนผู้ปกครองที่คอยให้คำปรึกษา แนะนำแนวทางให้มีกำลังใจ ลุกขึ้นเดินหน้าต่อไป

วันนี้ครูโจ ให้เกียรติทางทีมงาน VR Thai ให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราว และมุมมองแนวคิดแบบคนเห็นต่างแต่แฝงไว้ด้วยคติและสัจธรรมไว้อย่างน่าสนใจ

การใช้ภาษาอังกฤษ

ทำไมถึงมาสอนภาษาอังกฤษได้ครับ

เริ่มจากเพื่อนๆ หรือคนที่เรารู้จักในสมัยก่อน จะมีปัญหาเรื่องการสอนการบ้านลูก ไม่มีเวลาดูลูก เขาก็มาขอความช่วยเหลือให้ผมไปสอน ก็ไปสอนให้แบบไม่ได้หวังอะไรตอบแทน จนทุกวันนี้ก็ยังมีผู้ปกครองส่งลูกหลานมาให้สอนอยู่ และหลังจากที่ได้เข้ามาอยู่ในสังคมไทยมากขึ้น ก็ได้เห็นคนไทยที่มีโอกาสน้อยในการใช้ภาษาอังกฤษ แล้วรู้สึกเสียดายโอกาส เลยอยากให้คนไทยที่นี่เข้าใจภาษาอังกฤษจะได้ไม่ถูกหลอก หรือถูกเอาเปรียบ กล้าที่จะท้วงติง หรือสามารถเขียนจดหมายร้องเรียนหากไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายจ้างหรือหน่วยงานรัฐ

คิดจะหยุดสอนไหมครับ

ไม่หยุด ตราบใดที่ยังทำไหวก็จะทำต่อไป ไม่ใช่ว่าอยากได้เงิน  ใช่ เงิน ใครก็ต้องการ แต่เงินคือสิ่งที่รองลงมา มีเงินเพื่อให้ชีวิตอยู่รอดแค่นั้น ประเด็นสำคัญก็คือความสุข ความสุขที่ได้เห็นนักเรียนที่มาเรียนสอบผ่าน ทำให้เขาพูดคุยกับนายจ้างเขาได้ ได้งานทำที่ดี ได้เห็นลูกศิษย์ชนะคดีที่ถูกเอาเปรียบจากสิ่งที่เราสอนเขาไป

Broadway

” นอกจากนี้การสอนภาษายังช่วยต่อยอดในการทำงานของผม ผมเป็นล่าม ผมเป็นไกด์ท้องถิ่น ผมต้องฝึกปรือ ถ้าไม่ได้ฝึกผมก็จะลืม บางครั้งมีนักเรียนมาถาม แล้วผมไม่รู้หรืออาจลืมไป ผมก็ต้องไปค้นคว้ามาตอบ  ผมเองไม่ใช่ผู้รู้ แต่ผมเป็นผู้ใฝ่รู้ ผมชอบค้นคว้าหาความรู้ใส่ตัวเสมอ”

ChaYen

­­­มีหลักในการดำเนินชีวิตเป็นอย่างไรครับ

ผมชอบอะไรที่แปลกกว่าคนอื่น อันนี้ถือเป็นความคิดเห็นส่วนตัวหรือบรรทัดฐานของผม บ้านผมไม่มีเครื่องซักผ้า ไม่มีเครื่องไดร์ผ้า ไม่มีฮีทเตอร์ เพราะผมเชื่อว่าการอยู่กับธรรมชาติคือสิ่งที่ดีที่สุด ผมอยู่กับมันมาตั้งแต่เกิด พ่อแม่ผมเป็นชาวนา ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า คนเรายังไงก็ไม่พ้นธรรมชาติ เกิดมาไม่มีฟัน พอโตขึ้นมีฟันที่สวยงามแข็งแรง พอแก่ตัวลงฟันที่แข็งแรงก็เริ่มหลุดล่วงจนหมดปาก สุดท้ายก็กลับไปสู่ธรรมชาติเหมือนเดิม ผมเป็นคนไม่เคยทานยา ไม่สบายก็ไม่ทาน ผมทานผักและดื่มน้ำเยอะๆ  ทานน้ำขิง น้ำตะไคร้เป็นประจำ ผมใช้ธรรมชาติจัดการกับธรรมชาติ แต่ช่วงหลังภรรยาบังคับให้ทานยา ก็เลยต้องทาน แต่ก็นานๆ ครั้งถึงจะทาน

Joe2

ไม่อยากสบายบ้างเหรอครับ

ความเห็นส่วนตัวของผมนะ ผมไม่มีความจำเป็นตรงนั้น คนอื่นเขาอาจทำงานเยอะ ไม่มีเวลา แต่ผมเองไม่ต้องไปรีบร้อนอะไร อย่างเสื้อผ้าผมก็มีพอที่จะใส่ได้ 1 อาทิตย์  ผมซักผ้าด้วยวิธีการต้มผ้า แล้วก็เอามาตากแดด มันหอมและสะอาดการเครื่องซักผ้าแน่นอน คุณว่าจริงมั้ย เอาผ้าไปปั่นแล้วพอเวลาฝนตกขึ้นรถเมล์แล้วป็นไง เหม็นมั้ย  ฮีทเตอร์ก็เหมือนกัน นอกจากจะทำให้เกิดไฟไหม้แล้ว ยังทำให้โพรงจมูกเราแห้ง แล้วติดเชื้อได้ง่าย แถมความร้อนเป็นตัวแพร่เชื้อโรคได้เร็วที่สุด มันก็หลักธรรมชาติอีกนั่นแหละ ไม่ใช่ว่าผมประหยัด แต่การประหยัดเป็นผลที่ตามมาต่างหาก ในทางกลับกันผมมีไอแพด ผมมีไอโฟน อยากเอาไว้อวดใครมั้ย ตอบเลยว่าไม่ใช่ ผมมีงานหลายอย่างต้องทำแต่ผมไม่มีผู้ช่วย ผมต้องทำทุกอย่างเองหมด

การใช้ภาษาอังกฤษ

มีความคิดที่เป็นตัวของตัวเองแบบนี้ เชื่อในหลักศาสนามั้ยครับ

เชื่อและใช้อยู่ตลอดเวลา ผมเข้าเรียนที่ป. 1 ที่กรุงเทพคริสเตียน  ก็เลยนับถือศาสนาคริสต์ หลังจากจบผมก็กลับมาเป็นพุทธ ซึ่งทั้ง 2 ศาสนา สอนผม โดยเฉพาะหลักการเดียวกันคือ การให้ ทั้งสองศาสนาบอกว่าการให้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เกิดความสุขมากกว่าการรับ บุญในภาษาไทยไม่ได้หมายถึงการไปวัดเพียงอย่างเดียว แต่บุญหมายถึงการทำดี ฉะนั้นทำอะไรก็ตามที่เป็นสิ่งดีๆ ทำไปเถอะ ผมยึดแค่นี้

การใช้ภาษาอังกฤษ

อยากเห็นสังคมไทยที่นี่เปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างครับ

อยากเห็นความไม่เป็นกระแส คนไทยเป็นคนที่เชื่ออะไรง่าย ไม่ไตร่ตรอง ไม่รู้จักคิด ผมอยากเห็นคนไทยมีความรู้ด้าน การใช้ภาษาอังกฤษ มากขึ้น แต่ปัจจุบันก็ดีขึ้นนะ สังเกตจากคนไทยที่มาเรียนมาทำงานที่นี่ ได้เรียนในระดับสูงขึ้น ได้งานที่ดีทำกัน ซึ่งตราบใดคนไทยมีศักยภาพด้านภาษาอังกฤษ ฝรั่งเขาก็ไม่ปิดกั้นคนไทย หากใครอยากมาเรียนกับผมแล้วไม่ค่อยมีเงิน มาได้เลยผมสอนให้ แต่ขอให้มีความตั้งใจจริง

Related Articles