ของตกแต่ง Vintage มีดีไซน์สไตล์ Brianbow เจ้าของไอเดีย ของประดิษฐ์น่ารักน่าสะสมเหล่านี้ เป็นคนไทยแท้ๆ ซึ่งก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
หากคุณเป็นนักสะสมของประดิษฐ์ ของเล่น ของตกแต่ง Vintage คุณอาจพบเคยเห็นผลิตภัณฑ์ Brainbow ผ่านตามาบ้างตามหนังสือนิตยสารนานาประเทศและ Social Media ต่างๆ ซึ่งความจริงนั้น เจ้าของไอเดีย ของประดิษฐ์น่ารักน่าสะสมเหล่านี้ เป็นคนไทยแท้ๆ ซึ่งก็มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
อยากให้แนะนำตัวเองก่อน
ผมชื่ออ๋อ ธีรพล ธีรวรางกูร จบการศึกษาจากคณะศิลปกรรม มหาวิทยาลัยบูรพา แล้วหลังจากนั้นก็มาเรียนต่อด้านกราฟฟิกดีไซน์ที่ Tafe Enmore ผมจบด้าน Fine Art มาพอลองได้มาสัมผัสงานกราฟฟิกดีไซน์จริงๆ ก็รู้สึกว่าชอบมากกว่า อยากทำงานแบบนี้แหละ
ทีนี้ในช่วงก่อนจบ ทางโรงเรียนก็จะมีการจัด Exhibition ซึ่งจะมีพวกบริษัทโฆษณาชั้นนำ บริษัทครีเอทีฟ ออกแบบต่างๆ เข้ามาดูงานด้วย ซึ่งผมก็โชคดีมาก ที่มีบริษัทหนึ่งติดต่อมาให้ไปทำงานด้วย ผมเลยได้มีโอกาสเริ่มต้นทำงานกับบริษัท Graphic Design ของที่นี่ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีครับ
บริษัทนี้ออกแบบกราฟฟิกดีไซน์ให้กับพวกสินค้ายี่ห้อดังๆ เป็นหลัก หน้าที่ของผมอยู่ในในส่วน Animation ครับ พอมีประสบการณ์แล้วผมก็เลยคิดถึงเมืองไทย กลับมาอยู่เมืองไทย มาทำงานเป็น Art Director ให้บริษัทครีเอทีฟที่เมืองไทย
แต่มันก็พอมีความแตกต่างกันบ้าง เพราะในตอนนั้นสายงานเหล่านี้ยังไม่ท้าทายมากนัก ผมเลยเลือกที่จะกลับมาทำงานในออสเตรเลียอีกครั้ง หลังจากกลับมาก็ทำงานบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งอยู่ 3 ปี เขามีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก และงานก็น่าสนใจ เมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่แตก
คนโดนเลย์เอาท์ออกกันเยอะ ซึ่งทางบริษัทก็ให้เงินชดเชย 3 เดือนบ้าง 5 เดือนบ้าง ผมได้เงินตรงนี้เลยถือโอกาสเอาไปเที่ยวรอบโลกซะเลย ไปหมดทั้งยุโรป ญี่ปุ่น เนปาล อาศัยรับงานนอกเพื่อเป็นค่ากินอยู่เพิ่มเติม
หลังจากเที่ยวมาแล้วครึ่งปี ผมก็กลับมาทำงานกับบอสเก่าผมที่มาตั้งบริษัทใหม่ และก็ลงเรียน ปริญญาโท Graphic Design Multimedia ไปด้วย ทำสักพักก็เปลี่ยนมาทำบริษัทโฆษณา ซึ่งเขาออกแบบให้กับแบรนด์ใหญ่ๆ อย่าง Lexus Toyota แล้วก็ออกมาเป็น Senior Art Director ให้บริษัทโอกีวี่ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลก ผูกขาดโฆษณาให้สินค้าแบรนด์ใหญ่ๆ อีกหลายแบรนด์ อย่างโนเกีย อเมริกันเอ็กเพรส สายการบินแควนตัน
ในช่วงขณะที่ทำงานที่โอกีวี่นี้ ผมได้เข้าไปเรียนต่อ Award School ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับโฆษณา คอนเซ็ปโฆษณา ถือเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและต้องมีการสอบแข่งขันเข้าไป เมื่อสอบได้ ทางบริษัทโอกีวี่ก็ออกเงินค่าเล่าเรียนให้ด้วย พอไปเรียนแล้วมันก็มองภาพออก เริ่มเรียบเรียงได้เป็นระบบว่าอะไรมันคือคอนเซ็ปโฆษณาที่ดี มีวิธีคิดมากขึ้น หลังจากนั้นผมก็มีเปลี่ยนที่ทำงานอีกซึ่งก็ยังเป็นสายงานที่เกี่ยวกับโฆษณามาโดยตลอด สรุปแล้วก็ทำงานบริษัทครีเอทีฟและโฆษณาในออสเตรเลียมากว่า 14 ปีครับ
”ผมเองก็เริ่มต้นจากมาเรียนภาษา มาล้างจานในร้านอาหารไทย แต่ผมว่าชีวิตเราไม่ควรหยุดแค่นั้น ให้ความสำคัญกับการเรียนและการพัฒนาศักยภาพที่ถนัดของเราให้มาก แล้ว ฝันให้มันไกลๆ จะได้มีแรงผลักดันเราให้ไปได้สูงๆ อย่างน้อย ถ้าไปไม่ถึง เราก็ยังไปได้ไกลเกินกว่าที่เราเคยคิดไว้ด้วยซ้ำ”
แนะนำเบรนด์โบว์บ้าง
ผมขอออกตัวก่อนว่า เบรนด์โบว์อาจไม่ใช่สินค้าที่มีธุรกิจใหญ่โตมากนัก ผมเริ่มต้นจากความเป็นงานอดิเรกครับ ผมทำงานประจำในบริษัทเป็นหลัก และงานนี้เป็นงานเสริม เป็นความชอบส่วนตัว จุดเริ่มต้นมันเพราะว่าผมทำงานอยู่กับหน้าจอคอมตลอดเวลา มันก็มีอารมณ์ช่วงหนึ่งที่ทำให้เรานึกถึงงานแฮนด์เมด
ซึ่งก่อนหน้านี้ผมเรียนจบด้านนี้มา ผมเรียนปั้น เรียนเพ้นท์ เกี่ยวกับงานคราฟ เปิดเว็บดูก็เห็นเครื่อง Laser Cut มันน่าสนใจ ตัดสินใจอิมพอร์ตเครื่องมาจากอเมริกาเองเลยแม้ว่าราคาจะแพงเอาการ ผมเอามาตัดโน่นตัดนี่เล่น ให้เพื่อนเอาไว้ใช้ทำงานบ้าง และด้วยความที่ตัวผมอยู่ในวงการครีเอทีฟมาตลอด
สไตล์ส่วนตัวจะชอบอะไรที่เป็นของเก่าแนว Retro, Old school ผมก็เลยลองออกแบบสินค้าในสไตล์ที่ผมชอบ ใช้เครื่องนี้ตัดแล้วก็โพสต์ลงเว็บ ลง Social Media เล่นๆ ปรากฏว่ามีคนเข้ามาดู เข้ามาโพสต์ มากดไลค์กันเยอะมาก ถึงขนาดมีการขอซื้อกันเลย ผมก็เลยได้ไอเดียว่า ลองทำขายดูก็ดี เพราะไหนๆ เราก็มีเครื่องแล้ว
ชื่อแบรนด์ของผมชื่อ Brainbow ซึ่งเป็นการรวมกันของคำสองคำ คำแรก Brain เป็นสัญลักษณ์ของไอเดีย ความคิดที่แปลกใหม่ และ Rainbow ที่ใครเห็นแล้วก็มักชอบ มักมีความสุขทุกครั้งที่ได้เห็นสายรุ้ง เมื่อเอามารวมกันก็กลายเป็นคอนเซ็ปที่ผมคิดคือ ผมอยากคิดของประดิษฐ์ ของดีไซน์อะไรสักอย่างที่คนเห็นแล้วมีความสุข
ช่วงบูมของสินค้าเบรนด์โบว์นั้น ผมคิดว่ามาจากงาน The Finder Keeper ซึ่งเป็นตลาดงานของทำมือ ซึ่งมีปีละ 2 ครั้งที่ซิดนีย์ เมลเบิร์น และบริสเบน เป็นตลาดที่ต้องแข่งขันเพราะคนจัดงานเขาเป็นดีไซน์เนอร์ เขาจะเป็นคนเลือกสินค้าว่าใครจะได้มาออกในงาน ผมลองส่งสินค้าไป ก็ได้รับเลือกให้มาเปิดร้าน แล้วผลก็ออกมาแบบคาดไม่ถึง ระยะเวลาเพียงวันครึ่ง ผมขายสินค้าผมได้เยอะมาก
หลังจากนั้นก็มีคนติดตามสินค้าผมมากขึ้น มีหนังสือและ แม็กกาซีนมาสัมภาษณ์ไปลงเรื่อยๆ ทั้งในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อเมริกา โดยเฉพาะทาง Social Media มันแพร่ไปเร็วมาก ก็เลยมีกลุ่มร้านค้า และอาร์ทแกเลอรี่มาติดต่อเอาสินค้าผมไปวางขาย เชื่อไหมว่า สินค้าชิ้นแรกที่ทำ คือ Star Wars กับ Controller มาผสมผสานกันเป็นดีไซน์ใหม่ ทำมา 3 ปีกว่าแล้ว ปัจจุบันก็ยังมีคนสั่งซื้ออยู่เลย
หลังจากสินค้าติดตลาดผมก็เริ่มให้ภรรยาเข้ามาช่วยดูเรื่องงานเอกสาร ภาษี บัญชี และมีการจ้างพนักงานเข้ามาช่วยในด้านการผลิตครับ ล่าสุดสั่งเครื่อง letterpress-ORIGINAL HEIDELBERG (เป็นแท่นพิมพ์เก่าปี 1960 สำหรับปริ้นงาน) เข้ามาลองประดิษฐ์อะไรเล่นด้วยครับ
กลัวโดนเลียนแบบบ้างไหม
ต้องบอกตามตรงว่า มีมาบ้างแล้วครับ ล่าสุดเป็นบริษัทจากสิงคโปร์ ซึ่งเลียนแบบได้น่าเกลียดมาก ทำให้เหมือนเราทุกอย่างทั้งรูปแบบและคำคมต่างๆ ซึ่งผมมักสอดแทรกลงไปในชิ้นงานด้วย เรื่องแบบนี้มันควบคุมกันลำบาก จะให้ผมออกสินค้ามาแล้วต้องมาจดลิขสิทธิ์ในทุกๆ ชิ้นมันคงเป็นไปได้ยาก สิ่งที่เราทำได้คือ พัฒนาสินค้าของเราให้ดี หนีเขาไปเรื่อยๆ ให้เขาตามไม่ทัน แต่ถ้างานของผมสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น เพื่อไปเป็นไอเดีย ไปแตกแขนงทำอะไรอย่างอื่นผมก็ยินดีนะ แต่ต้องไม่ใช่การเลียนแบบไปทั้งหมดแบบไม่ต้องคิดอะไรเลย
คำแนะนำสำหรับคนไทยที่นี่
คำหนึ่งที่ผมแนะนำคือ Think Big เข้าไว้ครับ ผมเองก็เริ่มต้นจากมาเรียนภาษา มาล้างจานในร้านอาหารไทย แต่ผมว่าชีวิตเราไม่ควรหยุดแค่นั้น ให้ความสำคัญกับการเรียนและการพัฒนาศักยภาพที่ถนัดของเราให้มาก แล้ว ฝันให้มันไกลๆ จะได้มีแรงผลักดันเราให้ไปได้สูงๆ อย่างน้อย ถ้าไปไม่ถึง เราก็ยังไปได้ไกลเกินกว่าที่เราเคยคิดไว้ด้วยซ้ำ และสุดท้าย
ถ้าเราทำในสิ่งที่เราชอบ ที่เรารัก ยังไงซะผลมันก็ต้องออกมาดีครับ ข้อแนะนำสุดท้ายสำหรับคนที่จะทำงานสายครีเอทีฟ หรือสายที่เกี่ยวข้องนี้ Port Folio สำคัญมากครับ ผลงานของเรามันเหมือนเป็นใบเบิกทางให้เขาได้รู้จักตัวตนของเรา ให้เราได้งานง่ายขึ้น ตั้งแต่สมัยเรียนผมก็มีการประกวดแข่งขันกิจกรรมหลายอย่าง และก็มักได้รางวัล ซึ่งก็เป็นส่วนช่วยยืนยันศักยภาพของเราได้ดีเช่นกันครับ
http://www.brainbow.com.au
http://www.orrrmygod.com.au
