Home Editor's Picks ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ของ ณฐพร เกิดมงคล

ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ของ ณฐพร เกิดมงคล

by ChaYen
ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ของ คุณโอม ณฐพร เกิดมงคล หนึ่งในผู้ออกแบบความฝันให้กับบ้าน บริษัทและร้านอาหารหลายแห่งในออสเตรเลีย

ขณะเดินผ่านอาคาร สิ่งก่อสร้างสักแห่งหนึ่ง คุณทราบหรือไม่ว่า เบื้องหลังความสวยงามสะดุดตานั้น มันแสดงถึงสไตล์ที่ผู้เป็นเจ้าของได้คิดฝันเอาไว้ โดยผ่านกระบวนการสร้างสรรค์ ของผู้ออกแบบความฝันที่เรียกตัวเองว่า สถาปนิก

ณฐพร

พูดถึงงานที่ทำ ทำอะไร แล้วรู้จักตัวเองตั้งแต่ตอนไหน

งานที่ทำอยู่ตอนนี้เป็น Architect, Project Manager & Management ในด้านสถาปนิกและมัณฑกรครับ หน้าที่ก็จะรวมทั้งหมดตั้งแต่ออกแบบ เขียน แบบ เองทุกอย่าง ควบคุมการก่อสร้าง เรียกว่าครบวงจร ผมจบทางด้านสถาปัตยกรรมมา แต่มาเรียนรู้เพิ่มเติมในด้านการออกแบบภายใน ซึ่งมันต้องควบคู่กันไป ทำอย่างไรภายนอกจึงจะเข้ากับภายใน

ผมว่าผมชอบสิ่งนี้มาตั้งแต่จำความได้แล้วครับ คุณพ่อผมก็เป็นสถาปนิกเหมือนกัน เห็นท่านออกแบบ สเก็ตแบบ วาดรูป มันก็เลยเป็นสิ่งที่ปลูกฝังเรามาตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่เดินเข้าบ้านมา ก็รู้ว่าสิ่งที่เราชอบ คือสิ่งที่พ่อทำนั่นเอง ผมเคยหยิบรูปเก่าๆมาดูเห็นรูปถ่ายพ่อนั่งเขียนแบบอยู่บนโต๊ะ ส่วนตัวผมในรูปตอนเด็กก็นั่งเล่นวาดรูปอยู่ใต้โต๊ะ แค่นั้นมันก็ชัดเจนในความรู้สึกเราแล้ว

Top taste thai

ความท้าทายของมันอยู่ตรงไหน อะไรที่เป็นตัววัดความสำเร็จ

มันอาจไม่ได้เรียกว่าท้าทายนะ บางครั้งมันหมายถึงความเสี่ยง แบบร่างมันอยู่ในกระดาษ เราจะวาดอะไร ออกไอเดียอะไรก็ได้ เส้นแต่ละเส้นที่เราขีดเขียนไป มันหมายถึงเงินที่ลูกค้าเขาต้องทุ่มทุนสร้าง และเมื่อมันสร้างขึ้นมาแล้ว เราต้องพร้อมที่จะ “รับผิดชอบ” คำนี้แหละที่มันมากกว่า ความท้าทายและความสนุกของงาน สำหรับผม จุดวัดความสำเร็จอยู่ที่เมื่องานเสร็จแล้ว ทุกคนเห็น มันเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ได้เป็นเพียงแบบร่าง หรือรูปภาพแล้ว

ผลตอบรับเมื่องานถูกสร้างเสร็จแล้วนั่นละจะเป็นตัววัดความสำเร็จระดับหนึ่งของผมที่นอกเหนือจากตัวเงิน มันเป็นส่วนช่วยสร้างกำลังใจของเราด้วย บางทีแค่อีเมลหรือข้อความสั้นๆบางข้อความก็ทำให้ผมเกือบน้ำตาไหลเลยทีเดียว เขาทำร้านแล้วเขาประสบความสำเร็จนั่นเพราะตัวเขาเป็นส่วนใหญ่ แต่เราเป็นแค่เบื้องหลังเล็กๆ ส่วนหนึ่ง เราก็ยังดีใจและภูมิใจมากที่ส่วนหนึ่งเขายังนึกถึงเรา ขอบคุณเรา

9erawan

“ กำลังใจ ไม่จำเป็นต้องไปหวังจากใคร สุดท้ายแล้ว ตัวเราเองนี้หล่ะที่ต้องให้ กำลังใจ ตัวเราเอง โดยไม่ต้องหวังและต้องรอจากใคร” อยากให้ทุกคนอดทนและเข้มแข็ง มันไม่ง่าย แต่มันไม่ได้ยากเลยครับถ้าตั้งใจ”.

ครั้งหนึ่งที่ลืมไม่ได้

ขอพูดถึงงานแรกแล้วกัน ตอนที่ผมเขียนแบบให้คนอื่นครั้งแรกเนี่ย ตอนอายุประมาณ17- 18 ผมเขียนเองทั้งหมดเลยเป็นแปลนของบ้าน 2 ชั้นที่เมืองไทย ผมเขียนเสร็จแล้วเอาให้เขา สิ่งที่ได้กลับมาคือ เหล้าแค่ 2 ขวด เขาคงเห็นผมเป็นเด็กสร้างบ้านมั้ง ไม่ใช่สถาปนิก คงคิดว่าแค่เขียนแบบเอง ไม่ต้องใช้อะไรมากมาย ผมรู้สึกเหมือนเขาดูถูกวิชาชีพเราเล็กน้อย แต่ผมก็ยังชอบที่ได้ออกแบบและผมไม่มีวันเลิกล้มความตั้งใจเด็ดขาด

มาถึงจุดนี้จะเรียกว่า โชค ความตั้งใจ หรือเรื่องบังเอิญ

มันเป็นความฝัน เป็นอะไรที่ชัดเจนเลยว่า วันหนึ่งเราต้องเป็นสถาปนิก เป็นอินทีเรียดีไซน์ที่ได้ทำงานในต่างประเทศ มีบริษัทออกแบบเล็กๆเป็นของตัวเอง คงเรียกว่าโชคไม่ได้หรอก เรียกว่า ความตั้งใจ กับ โอกาสจะดีกว่า ผมเลือกสิ่งที่ดีสุดในตัวผม เริ่มเรียนมาตั้งแต่สายอาชีวะ ทั้งทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ต่อมหาวิทยาลัย จบแล้วบินมาออสเตรเลียเพื่อหาประสบการณ์ใหม่

ตอนแรกผมก็เหมือนคนอื่นทั่วไป เรียนภาษา ทำงานร้านอาหาร ล้างจาน จนกระทั่งภาษาเราอยู่ในระดับพัฒนาขึ้น ก็เรียนต่อมหาวิทยาลัย UNSW แล้วก็ไปต่อที่ TAFE จุดเปลี่ยนมันเริ่มขึ้นเมื่อผมไปสมัครงานที่ Dig Idea Design Garden ตอนนั้นผมขอไปทำงานกรรมกร แบกหาม ขนหิน ขนทราย เพื่อให้รู้จักงานตรงนี้ ทำอยู่สักพักหัวหน้าคนงานเขาเข้ามาคุยด้วย ถามผมว่า เขียนแบบได้ไหม ให้งานสเก็ตผมมาทำในคอมพิวเตอร์ วันรุ่งขึ้นผมเอางานมาส่ง คำถามแรก เขาถามว่าใช้เวลาทำนานมั้ย ผมตอบ 3 ชั่วโมง

คำถามต่อมาคือ เริ่มงานเลยได้ไหม ผมอึ้งไปชั่วขณะ (นั่นละชีวิตผมเปลี่ยนแล้ว) ผมตั้งใจที่จะเลือกเรียนสายที่ตัวเองชอบมาตั้งแต่แรก ระหว่างที่อยู่ออสเตรเลีย แม้ว่าจะทำงานอย่างอื่น ผมก็ไม่เคยที่จะทิ้งความรู้เดิม ผมเอาหนังสือมาจากไทย มานั่งฝึกเขียนแบบอยู่เสมอๆ จนกระทั่งโอกาสมาถึง มันจึงเป็นเพราะตัวเราด้วยที่ตั้งใจเดินเข้าไปหาจุดนั้น จึงเป็นโอกาสที่มาช่วง ณ ขณะที่เราพร้อม

ณฐพร

ความแตกต่างในการทำงานระหว่างที่นี่กับที่เมืองไทย มีความแตกต่างและยากง่ายเหมือนกันไหม

ต้องมีพื้นฐานภาษาที่ดีมาก่อน ภาษานี่สำคัญมาก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ต้องฝึกฝนอยู่ตลอดเวลา เปิดโลกทัศน์ เปิดใจให้กว้าง ส่วนตัวดิฉันเองเป็นคนชอบวิชาภาษาอังกฤษมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็เลยเลือกงานสายนี้ ข้อต่อมาคนเป็นล่ามจะต้องเป็นนักฟังที่ดี มีทักษะในการฟัง รับรู้ และเข้าใจในสิ่งที่ได้รับฟังมาก มันจะมากกว่าการใช้หูฟัง

เพราะต้องใช้ทั้งตาและใจด้วย ซึ่งต้องมีสมาธิเป็นอย่างมาก และต้องมีอัธยาศัยดี เป็นมิตรกับคน แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องรู้จักการวางตัวด้วย เพราะว่าล่ามไม่สมควรให้ความสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป เพราะอาจมีผลกับงาน

ณฐพร

สิ่งไหนที่ได้รับจากอาชีพนี้นอกเหนือจากตัวเงิน

สังคมไทยที่พี่สัมผัสมา มันเหมือนกับคนมีอีโก้ มีเรื่องของเส้นสายโดยเฉพาะในเรื่องของสถาบันที่จบมา ทั้งๆ ที่คุณภาพของคน นั้นย่อมไม่เท่ากันอยู่แล้ว สังคมมีการแบ่งแยก คนเก่ง คนที่มีความสามารถกลับไม่ได้แสดงผลงาน คนที่ถูกเลือกกลายเป็นใครก็ไม่รู้ที่มาจากสายเดียวกัน สถาบันเดียวกัน

แต่สำหรับที่นี่มันเป็นประเทศที่เปิดกว้าง ถึงเราจะโนเนม แต่เขาก็หยิบยื่นโอกาสให้เราแสดงความสามารถให้เขายอมรับ ให้เขาเห็นว่าเราทำได้จริงๆ เพียงแต่เราพร้อมหรือเปล่าที่จะยื่นมือเข้าไปรับโอกาสนั้น

ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

งานอดิเรกและสิ่งที่อยากทำในอนาคต

ฮาร์เลย์ เดวิดสันครับ มันเป็นความใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็ก มันเท่ห์อ่ะ มีขี่ จักรยานฟิกเกียร์ ปั่นอยู่เกือบ 2 ปี ไปปั่นที่เมลเบิร์นด้วยนะ แบกจักรยานขึ้นเครื่องบินไปเลย เอาจักรยานไปประกวดด้วย ทำอะไรทำให้สุด มีปีนเขาด้วย เคยไปแข่งปีนเขานานาชาติของรัฐนิวเซาท์เวลล์ Indoor Rock Climbing Competition มา ได้อันดับที่ 32 สิ่งที่ฝันในวัยเด็กตอนนี้ก็ถือว่าได้ทำเกือบหมดแล้ว อนาคตก็อยากเปิดร้านขายฮาร์เลย์ ขายต้นไม้ ผมชอบสวน ชอบต้นไม้ อาจจะทำเป็นแนวๆ แกลอรี่ มีฮาร์เลย์ มีต้นไม้ มีหนังสือ

ณฐพร

หาแรงบันดาลใจอย่างไร

งานที่ผมทำมันต้องใช้ไอเดีย ใช้แรงบันดาลใจค่อนข้างมาก หลังจากอยู่บริษัทฝรั่งมา 3 แห่ง ประมาณ 7-8 ปี ผมก็เริ่มรับงานฟรีแลนซ์จากออสเตรเลียแล้วบินไปท่องเที่ยวทันที ครั้งแรกผมบินไปญี่ปุ่น เช่าโรงแรม จัดโต๊ะในห้องให้เป็นโต๊ะทำงาน ตั้งเวลาให้ตัวเอง 7 โมงเช้าตื่นมาทำธุระส่วนตัว 9 โมงเริ่มเขียนงาน เที่ยงหาอาหารกิน เหมือนเราทำงานอยู่ที่นี่ แต่พอหลัง 5 โมงเย็นเราค่อยออกไปเที่ยว

การเปลี่ยนสถานที่ มันต่างกันมากนะ มันอยู่ในจุดที่ไม่มีใครมายุ่งวุ่นวายกับเรา ผู้คนแปลกหน้า สิ่งแวดล้อมไม่เหมือนเดิม วัฒนธรรมก็ต่าง เราอยากได้ประสบการณ์ใหม่ ไปเจอสิ่งใหม่ ฉะนั้น ความคิดของเรา ที่เราอยู่ในวินาทีนั้น มันเปลี่ยนตาม เมื่อเราไม่หยุดนิ่งอยู่กับ ไอเดียมันก็จะโลดแล่นตามการเคลื่อนไหวของเรา

ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

อยากฝากอะไรให้กับน้องๆที่มาที่นี่ใหม่ไหม

น้องๆที่มาใหม่ ก็ขอให้ตั้งคำถามกับตัวเองก่อนครับ มาทำอะไร ชอบที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่หรือเปล่า อยู่แล้วจะทำอะไร อยู่ไม่ได้จะกลับไปทำอะไร ถ้าตอบได้ก็ค่อยหาสเต็ปต่อไปให้ตัวเอง อย่ามัวแต่เที่ยวสนุก หรือไปเสียเวลาติดการพนัน ติดแฟน ติดแบรนด์เนม

คนเราอายุมันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ กว่าจะเริ่มนับหนึ่งกับอาชีพใหม่ ต้องใช้เวลาอีกกี่ปีจึงจะประสบความสำเร็จ และอย่าไปเชื่อคำพูดคนอื่นว่า ทำโน่นทำนี่ ทำอาชีพนี้แล้วรวย อย่าไปยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ ให้ตัดสินใจ ว่าชอบไหม ถ้าเราทำในสิ่งที่เรารัก เดี๋ยวเงินมันก็ตามมาเอง ดีกว่าทนฝืนใจทำสิ่งที่เราไม่ชอบ แค่ตื่นเช้ามา เราก็ไม่อยากไปทำงานแล้ว

อย่างผม ผมเลือกทำในสิ่งที่ผมชอบ เริ่มต้นตั้งแต่อายุ 18 ค้นหาแบบ ค้นหาสไตล์ของตัวเอง และยึดมันเป็นอาชีพอย่างทุกวันนี้ ทั้งที่ตอนแรกก็เริ่มต้นจากศูนย์เหมือนๆกัน แต่ถ้าเรามีสมอง มีความรู้ มีความตั้งใจ ยังไงเราก็ต้องมีทางไป “ กำลังใจ ไม่จำเป็นต้องไปหวังจากใคร สุดท้ายแล้ว ตัวเราเองนี้หล่ะที่ต้องให้ กำลังใจ ตัวเราเอง โดยไม่ต้องหวังและต้องรอจากใคร” อยากให้ทุกคนอดทนและเข้มแข็ง มันไม่ง่าย แต่มันไม่ได้ยากเลยครับถ้าตั้งใจ” นี่คือ ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ความท้าทายที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

Facebook: https://www.facebook.com/9erawandesign/

Related Articles