Home Editor's Picks ความเชื่อทางศาสนา ปรับกับประเพณีท้องถิ่น Easter Ep 2

ความเชื่อทางศาสนา ปรับกับประเพณีท้องถิ่น Easter Ep 2

by ChaYen
Easter Ep2 cover

ความเชื่อทางศาสนา ที่ทำถูกนำมาปรับเข้ากับประเพณีท้องถิ่นนั้น มีให้เห็นแทบในทุกศาสนา และในทุกภูมิภาคของโลก ยกตัวอย่างเช่น ธรรมเนียมการถวายข้าวพระพุทธ (รูป) ของคนไทย หรือการล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุนีของคนพม่า เป็นการนำธรรมเนียมท้องถิ่นไปผสม กับแนวความเชื่อเดิมของศาสนาทั้งสิ้น

ความเชื่อทางศาสนา

แม้ธรรมเนียมเหล่านี้จะทำให้ตัวเนื้อแท้ ของศาสนามีสิ่งมาแต่งแต้มไปจากเดิม จนบางทีเมื่อเวลาผ่านไป คนอาจสับสนว่าสิ่งไหนเป็นความเชื่อเดิม สิ่งไหนเป็นธรรมเนียมที่ถูกเติมเข้ามา แต่ก็แสดงให้เห็นความสวยงาม ของความเป็นท้องถิ่น

วิธีคิดของคนพื้นที่นั้นๆ และวิวัฒนาการของชุมชน การฉลองเทศกาลอีสเตอร์ของคนโปแลนด์ก็เช่นกัน ได้นำความเชื่อหลักของศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิกมาส่วนหนึ่ง มาผนวกเข้ากับวิถีแห่งความเป็นคนโปแลนด์อีกส่วนหนึ่ง จนเป็นสีสันที่น่าสนใจในปัจจุบัน

เริ่มจากวัน Palm Sunday หรือวันอาทิตย์ 1 สัปดาห์ก่อน อีสเตอร์ ซึ่งเป็นระลึกถึงการที่พระเยซู เสด็จเข้าไปยังเยรูซาเล็ม วันนี้คนคริสต์ในไทยยุคเดิมๆ จะใช้ใบลานซึ่งสมัยก่อน หาได้ไม่ยากมาสานให้ดูเรียบร้อย แต่สมัยนี้ใบลานหายากขึ้น หลายที่ก็ใช้ใบมะพร้าวแทน

แต่ที่โปแลนด์ไม่มีทั้งปาล์มและใบลาน จึงใช้หญ้าแห้งมาย้อมสีให้มีสีต่างๆ สวยงาม หรือบางคนเอามาแต่งให้เป็นรูปกระต่ายด้วย ให้ดูเก๋ไปอีกแบบ.. ใบลานหรือใบไม้แห้งนี้ คริสตศาสนิกชนจะนำไปร่วมพิธีในโบสถ์วัน Palm Sunday ด้วย สำหรับคนไทยเมื่อเสร็จพิธีก็จะเก็บไว้ที่บ้านตลอดปีถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ แต่สำหรับคนโปแลนด์จะเอาไว้ใช้ในวันจันทร์หลังอีสเตอร์ เอาไว้ทำอะไรลองอ่านต่อไปครับ

Easter Monday วันนี้ไม่มีพิธีทางศาสนาแล้ว แต่กลายเป็นวันแห่งความสนุกสนานแทน เรียกวันนี้ว่า Wet Monday คือสมัยก่อนหนุ่มๆ จะเอาน้ำไปไล่สาดสาวๆ และตีด้วยกิ่งต้น pussy willow (ดอกหญ้ากิ่งสีน้ำตาลมีตุ่มขาวๆ) หรือไม่ก็เอาใบไม้แห้งจากที่ใช้ในวัน Palm Sunday นั่นแหละไล่ตีกัน ถือเป็นการอวยพรให้โชค จริงๆ ก็เป็นโอกาสให้เอาไว้หนุ่มสาวจีบกันสมัยก่อนนั่นเอง ส.

หนึ่งนักการทูต

โดยที่อีสเตอร์จะเกิดขึ้น ในช่วงฤดูใบไม้ผลิพอดี ในช่วงสัปดาห์นี้คนโปแลนด์ จะนิยมทำความสะอาดบ้าน หรือทาสีบ้านทาสียุ้งฉางใหม่กันเลย เพื่อเตรียมเก็บผลิตผลทางการเกษตร ที่จะปลูกในช่วงใบไม้ผลิและเก็บเกี่ยวต่อไป คล้ายๆ การเก็บกวาดบ้านให้สะอาดวันตรุษจีนเพื่อรับความเป็น สิริมงคล

ความเชื่อทางศาสนา

ช่วงสัปดาห์หลัง Palm Sunday นี้ คนคริสต์จะเรียกว่าสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ โดยจะมีพิธีมิสซา ที่โบสถ์ตั้งแต่คืนวันพฤหัสเพื่อรำลึกถึง the Last Supper ชาวคริสต์ในไทยเรียกว่า วันพฤหัสตั้งศีล เนื่องจากอาหารค่ำมื้อนี้ พระเยซูได้แบ่งขนมปังให้เหล่าสาวกและกล่าวว่า “นี่คือกายของเราที่จะมอบเพื่อท่าน” ทำให้เป็นต้นกำเนิดของศีลมหาสนิทหรือ Holy Communion ซึ่งถือเป็นจิตวิญญาณของชาวคริสต์

ต่อมาคืนวันศุกร์เป็นวันสำคัญคือ Good Friday…คำว่า Good ในที่นี้มาจากภาษาอังกฤษโบราณมีความหมายว่า Holy เป็นวันรำลึกถึงการที่พระเยซูต้องถูกจับ ถูกนำไปตัดสิน และให้แบกกางเขนตั้งแต่ในเมืองเดินไปยังภูเขาและถูกตรึงจนสิ้นพระชนม์ (ท่านใดสนใจรายละเอียดตอนนี้ขอแนะนำภาพยนตร์เรื่อง The Passion of the Christ ซึ่งทำได้ ปราณีตมาก ใช้ภาษา Aramaic ซึ่งเป็นภาษาที่เชื่อว่าพระเยซูใช้พูดในยุคนั้นตลอดเรื่อง) วันนี้คนโปแลนด์จะอดอาหารหรืองดเนื้อสัตว์ ไม่จัดปาร์ตี้ และงดดื่มแอลกอฮอล์กัน

ความเชื่อทางศาสนา


ในวันเสาร์คนคริสต์ในไทยเรียกวันนี้ว่า วันเสาร์เสกน้ำเสกไฟ โดยจะนำเทียนและขวดน้ำไปในพิธีมิสซา และเมื่อเสร็จพิธีจะถือว่าเทียนและน้ำนี้เป็นของศักดิ์สิทธิ์ และเก็บไว้ที่บ้านตลอดปีเช่นกัน

วันเสาร์นี้ครอบครัวคนโปแลนด์ จะเตรียมของสองอย่าง คือเตรียมทำไข่อีสเตอร์ ซึ่งเด็กๆ ก็จะทาสีไข่กันอย่างสวยสดงดงาม แต่ครอบครัวที่อนุรักษ์หน่อย ก็ยังใช้วิธีดั้งเดิมคือ การย้อมสีไข่ด้วยเปลือกหัวหอม จะหอมใหญ่หรือหอมแดงก็ได้ ไข่ก็จะออกมามีสีสันธรรมชาติ และมีลวดลายแปลกไปอีกแบบ ไข่อีสเตอร์นี้คนโปแลนด์มีชื่อเรียกเฉพาะว่า Pisanki (ปีซานกี)

อีกอย่างหนึ่งที่คนโปแลนด์จะเตรียมคือตะกร้าอีสเตอร์ ซึ่งจะประกอบไปด้วยอาหารพื้นถิ่น เช่น ไส้กรอก แฮม เกลือ พริกไทย ไข่อีสเตอร์ และรูปปั้นลูกแกะทำจากน้ำตาล เป็นขนมหรือตุ๊กตาแกะพลาสติกก็ได้ (คนคริสต์เรียกพระเยซูว่าลูกแกะพระเจ้า สืบเนื่องจากความเชื่อคนยิวสมัยก่อนที่ใช้ลูกแกะเป็นเครื่องบูชายัญพระเจ้า และพระเยซูทรงยอมตายเอาตนเองเป็นเครื่องบูชายัญเพื่อไถ่บาปมนุษย์) โดยจะเอาตะกร้านี้ไปโบสถ์ในคืนวันเสาร์ด้วย

Easter

ส่วนวันอาทิตย์อีสเตอร์ซึ่ง เป็นวันสำคัญที่สุดในช่วงเทศกาลนี้ ครอบครัวโดยมากจะรีบไปโบสถ์ ตั้งแต่เช้าและกลับมาทานอาหารเช้าร่วมกัน โดยนอกจากจะทานอาหารในตะกร้า อีสเตอร์ที่เตรียมไว้ตั้งแต่คืนก่อนหน้าแล้ว ก็ยังมีสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งคือ opłatek (อ๊อพวาเท็ก) หรือขนมปังไม่มีเชื้อยีสต์ แผ่นบางๆ ขาวๆ

ขนมปังนี้จริงๆ ไม่มีรสชาติอะไร นอกจากรสหวานปะแล่ม ของแป้งตามธรรมชาติ แต่เป็นขนมปังประเภทเดียวกับ ศีลมหาสนิทที่คนคริสต์จะรับมาทานจากพระสงฆ์เวลาเข้าพิธีมิสซา เพื่อรำลึกถึงพระกายของพระเยซู ที่น่ารักคือเมื่อแบ่งขนมปังนี้ทานกัน คนในครอบครัว ก็จะอวยพรกันและกันด้วย

ธรรมเนียมการทานขนมปังชนิดนี้ ครอบครัวโปแลนด์ทำกัน ทั้งตอนอีสเตอร์และคริสต์มาส โดยแม้จะไปทำมาหากินอยู่ที่ประเทศไหนในโลก การได้ทานขนมปังและอวยพรกันถือ เป็นธรรมเนียมสำคัญของคนโปแลนด์ พอทานอาหารเสร็จ ก็จะตบท้ายด้วยเค้ก อีสเตอร์ก้อนใหญ่ เป็นอันจบกระบวนความ

Easter 5

เทศกาลอีสเตอร์ที่โปแลนด์ไม่ได้จบแค่วันอาทิตย์ แต่ลากยาวไปถึงวันจันทร์ เรียกว่า Easter Monday แต่วันนี้ไม่มีพิธีทางศาสนาแล้ว แต่กลายเป็นวันแห่งความสนุกสนานแทน เรียกวันนี้ว่า Wet Monday คือสมัยก่อนหนุ่มๆ จะเอาน้ำไปไล่สาดสาวๆ และตีด้วยกิ่งต้น pussy willow (ดอกหญ้ากิ่งสีน้ำตาลมีตุ่มขาวๆ) หรือไม่ก็เอาใบไม้แห้งจากที่ใช้ในวัน Palm Sunday นั่นแหละไล่ตีกัน ถือเป็นการอวยพรให้โชค จริงๆ ก็เป็นโอกาสให้เอาไว้หนุ่มสาวจีบกันสมัยก่อนนั่นเอง

โดยมีความเชื่อว่าสาวคนไหนถูกสาดน้ำจน เปียกมากที่สุดจะเป็นคนต่อไปที่ได้แต่งงาน แต่สมัยนี้กลายเป็นการสาดน้ำเล่นกันหรือ เอาปืนฉีดน้ำมาไล่ยิงกันเหมือนสงกรานต์บ้านเราไปแล้ว คือใครผ่านมาจะถูกสาดน้ำหมด กลายเป็นวันที่มีสีสันอีกวันหนึ่งของโปแลนด์

ความเชื่อทางศาสนา เรื่องอีสเตอร์ยังมีเกร็ดน่าสนใจอีกหลายประการ เช่น เหตุใดเรียกวันนี้ว่าวันอีสเตอร์ ทำไมวันนี้ต้องมาตกช่วงเดือนมีนาคม หรือต้นเมษายน ไข่และกระต่ายมาเกี่ยวอะไรกับอีสเตอร์ แต่จะเล่าตอนนี้ก็จะยาวอีกซะแล้ว ขอติดไว้เล่าสัปดาห์หน้า เป็น Easter Trilogy 3 ตอนจบแทนก็ละกันครับ…สำหรับวันนี้ Happy Easter ครับ

(ป.ล. ขอบคุณภาพจากแหล่งต่างๆ ในอินเตอร์เน็ต)

บทความของ (ท่องโลกไปกับ..หนึ่ง-นักการทูต)

Related Articles

Leave a Comment