จิตรกรไร้แขน รายการคนค้นตนได้นำเรื่องราวของชายผู้หนึ่ง นามว่า เอกชัย วรรณแก้ว มาออกอากาศ ชายผู้นี้เกิดมามีความพิการทางแขนและขาแต่กำเนิด แต่เขากลับใช้ชีวิตเหมือนคนปกติและสู้ชีวิตเหลือเกิน
ที่สำคัญ ในขณะนั้นชายผู้นี้กำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปริญญาตรีคณะจิตรกรรมสากล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์ วิทยาเขตเพาะช่าง ซึ่งที่นี่ใครๆ ก็รู้ว่าถ้าไม่เจ๋งจริงก็คงไม่ได้เข้าเรียนกันง่ายๆ หลังจากนั้นชีวิตของเอกชัยก็เปลี่ยนไปมากมาย ได้ออกรายการอีกหลายรายการ จนเป็นที่รู้จักของคนไทยในฐานะสัญลักษณ์ของคนสู้ชีวิต และเป็นโอกาสดีที่เอกชัยได้มาโชว์ผลงานของเขาในงาน Thailand Grand Festival จึงทำให้เรา ทีมงาน VR Thai ได้พูดคุยถึงชีวิตหลังจากออกรายการไป

หลังจากเรียนจบแล้วทำอะไรต่อ
ด้วยพระมหากรุณาธิคุณในสมเด็จพระเทพฯ ผมจึงได้ไปเป็นครูสมดังที่ตั้งความหวังไว้ที่อาชีวะธนบุรี สอนศิลปะให้กับเด็ก ปวช. ปวส. เป็นครูที่นั่นได้ 2 ปีกว่า พระองค์ทรงตรัสถามว่าเมื่อไหร่จะเรียนต่อในระดับปริญญาโท ก็เลยลาออกมาเพื่อที่จะเตรียมตัวเรียนต่อ โดยผมกำลังเลือกที่เรียนอยู่ระหว่าง ศิลปากร กับจุฬาฯ
ชีวิตตอนนี้
สิ่งที่ผมคาดหวังไว้เมื่อก่อน ผมก็ทำได้สำเร็จแล้ว ได้เป็นครูสอนศิลปะ ได้บวชให้พ่อให้แม่ ปลูกบ้านใหม่ให้แม่ ซื้อบ้านให้ตนเอง ตอนนี้มีคนรู้จักมากขึ้น เข้ามาทักทาย ส่วนงานก็มีเข้ามาเรื่อยๆ มีงานถ่ายโฆษณา งานถ่ายหนัง ตอนนี้ก็ปิดกล้องไป 2 เรื่องแล้วครับ เรื่องแรก Off on the Beach ของพี่หนึ่ง วิทิตนันท์ หนังแนวติดเกาะ ผมแสดงเป็นคนขับเรือแล้วพาคนไปติดเกาะร้าง และเรื่องที่ 2 กรรไกร ไข่ ผ้าไหม ของพี่บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดี

แล้วทำอะไรอีกบ้าง
หลักๆ ก็ยังเป็นงานเขียนรูป แต่มีงานที่เราไม่ได้ตั้งใจมาก่อนว่าจะได้ทำก็คืองานวิทยากร ก็ไปพูดสร้างสรรค์กำลังใจให้กับคนที่หมดกำลังใจ แล้วก็มีงานหนังสือ แล้วก็งานในอนาคต ก็คือ ทอล์คโชว์ เอกชัย ใจเปลี่ยนโลก ก็จะออกมาในแนวให้กำลังใจ ชีวิตคนเราไม่ได้สวยงาม ล้มแล้วจะลุกอย่างไรให้สง่างาม ประมาณเดือนสิงหาคน ส่วนรายละเอียดต้องติดตามกันอีกที และการไปปีนเขาที่สูงเป็นอันดับ 2 ของโลก ก็คือคีรีมันจาโร ซึ่งเป็นโครงการของพี่หนึ่ง วิทินันท์ (คนไทยคนแรกที่พิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์) ที่น่าจะเป็นตัวอย่างให้กับคนอีกหลายคนได้ คนอื่นที่กำลังท้อแท้ หมดกำลังใจ หรือเป็นอย่างเราก็จะได้มีกำลังใจ
ช่วงที่ยากที่สุดในชีวิต
ช่วงที่ต้องทำให้คนยอมรับ ตั้งแต่เข้าเรียนที่แรกเลย พอย้ายที่เรียนแต่ละครั้งก็ต้องเริ่มใหม่หมด ต้องทำให้เขารู้ว่าเราทำได้นะ ทุกที่เลย จนมาได้ออกรายการจึงทำให้คนยอมรับมากขึ้น

พูดถึงงานศิลปะกันบ้าง
ถ้าว่างจากงานในแต่ละวันก็จะเขียนรูป 2-3 ชั่วโมง ผมเองเขียนภาพแนวโซลิซึ่ม คือแนวเหนือจริงแต่ยังอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงอยู่ อย่างเช่น วาดรูปส้ม แต่ส้มมีสี 3 สีในลูกเดียวกัน ชอบแนวนี้เพราะต้องใช้ความคิดและจินตนาการมาก ศิลปะไม่มีเกณฑ์ตัดสิน มันอยู่ที่ความพึงพอใจของคนมากกว่า แต่ศิลปะก็มีหลักการของมันอยู่บ้างเช่น สัดส่วน แสงเงา
”ผมเกิดมาติดลบ 100 คนปกติเกิดมาบวก 100 คุณจะทำตัวให้มันบวกหรือลดลง มันขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง แต่คนอย่างผมจะทำให้บวกขึ้นมานั้น มันยากขนาดไหน คุณมีภาษีดีกว่าผมแล้วทำไมคุณไม่ทำล่ะ ขอให้ไตร่ตรองก่อนว่า อะไรที่เราทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร ทำไปเถอะ ทำแล้วไม่ผิดต่อใคร ทำไปเถอะ ”

คิดบวกตลอด
ผมคิดว่า ถ้าเราคิดลบ ตัวเราที่ลบอยู่แล้วมันก็ลบไปกันใหญ่ แต่ถ้าเราคิดบวก เราก็มีแต่เพิ่ม คนเราตอนนี้ที่กำลังใจน้อยลง เพราะเราไปคิดลบ เราเรียนมาเหมือนเขา แต่ทำไมเงินเดือนไม่เท่าเขา ทำไมเราไม่ได้งานดีๆ อย่างเขา แต่ถ้าเราคิดบวก ตอนนี้เราอยู่ตรงนี้แล้ว เดี๋ยววันหนึ่งเราก็จะก้าวขึ้นไปอีกขั้น ผมเกิดมาติดลบ 100 คนปกติเกิดมาบวก 100 คุณจะทำตัวให้มันบวกหรือลดลง มันขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง
แต่คนอย่างผมจะทำให้บวกขึ้นมานั้น มันยากขนาดไหน คุณมีภาษีดีกว่าผมแล้วทำไมคุณไม่ทำล่ะ ขอให้ไตร่ตรองก่อนว่า อะไรที่เราทำแล้วไม่เดือดร้อนใคร ทำไปเถอะ ทำแล้วไม่ผิดต่อใคร ทำไปเถอะ ถ้าเรารู้ว่าเราชอบอะไรก็ทำให้มันเต็มที่ อย่าบอกว่าตัวเองทำไม่ได้ เมื่อยังไม่ได้ทำ ท่องคำนี้ไว้ ทุกคนทำได้ นึกถึงคนที่ไม่มีโอกาสสิ เรามีโอกาสมาอยู่จุดนี้แล้วไม่ทำให้ดี คนที่ไม่มีโอกาสอย่างเรามีอีกมากที่เขาอยากทำแต่ก็ไม่ได้ทำอย่างเรา

ยงยุทธ คุนฑากฤษฎิธาดาพงศ์
ผมเป็นคนดูแล จิตรกรไร้แขน น้องเอกชัย รู้จักกันมา 6 ปีแล้ว เอกชัยเป็นคนจริงใจ เขามีความเป็นครูสูงมาก ชอบสอนชอบบอก ให้กำลังใจ เขามองโลกในแง่บวกมากๆ คือเรื่องอะไรที่เรารู้สึกว่าเป็นปัญหา แต่เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็กมาก เรารู้สึกว่าบางทีเราก็อายนะเรามีความพร้อมมากกว่า แต่ทำไมเรามีความทุกข์มากกว่าเขา อย่างเช่นความรักเนี่ย เขาก็จะบอกว่าเราก็ควรจะรักตัวเองก่อน ก่อนที่จะรักคนอื่น เราควรจะมาเป็นผู้เลือกมากกว่าที่จะให้คนอื่นมาเลือกเรา เราก็รับฟัง เพราะเขาบอกเราด้วยความจริงใจ ซึ่งหายากในยุคปัจจุบัน
อัครชิต สุขเสวี
งานนี้เกิดขึ้นมาจาก พอดีผมกำลังหาศิลปินไทยเพื่อไปแสดงผลงานที่ลอนดอน ก็เลยคุยกับพี่ดนัย จันทร์เจ้าฉาย พี่ดนัยก็แนะนำน้องเอกให้รู้จัก ผมลองไปดูผลงานและการใช้ชีวิตของน้องเค้าก็ประทับใจ ก็เลยจะเอาไปแสดงผลงานที่ลอนดอน พอดีมีงาน Thailand Grand 2015 จึงอยากให้น้องเอกมาแสดงผลงาน และก็ต้องขอขอบคุณ ท่านกงสุลใหญ่ธีรเทพ และพี่กงสุลหนึ่งที่ติดต่อประสานงานจนได้มาแสดงผลงานในครั้งนี้