อาจมีเพียงไม่กี่คนที่ทราบถึงการประกวด National Costume Competition ที่ออแกไนซ์โดย Cosmopolitan Model Management ซึ่งเป็นการประกวดออกแบบชุดให้กับ Miss Universe Australia ดีไซเนอร์คนไทย-Behind The Black Swan สรรภร อารยะกุล
และเป็นปีแรกที่เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วไป ได้ส่งผลงานเข้าประกวด คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หรือเรื่องบังเอิญ เพราะในการคัดเลือกนั้น ทางทีมกองประกวดมีผู้ส่งผลงาน เข้าร่วมถึงหลายร้อยคน ซึ่งคุณนุช สรรภร อารยะกุล และทีมงาน ติด 1 ใน 4 อันดับของผู้ถูกคัดเลือก โดยผลงานที่ใช้ชื่อว่า Black Swan

เข้ามาสู่การประกวดออกแบบเสื้อผ้าได้อย่างไร
โดยส่วนตัวแล้วพี่เป็นคนชอบแต่งตัวค่ะ พี่ก็เลยชอบที่จะออกแบบเสื้อผ้า ดีไซน์แนวเสื้อผ้าใหม่ๆ พอเห็นมีการประกวดก็เลยตัดสินใจลองดู เริ่มประกวดครั้งแรก ในปี 1999 Breeze Young Designer ได้รับรางวัลชนะเลิศ เขาก็เชิญไปประกวดต่อที่เซี่ยงไฮ้ และที่อื่นอีกเรื่อยๆ จากนั้นก็ส่งผลงานเข้าประกวดมาเกือบทุกงาน ออกแบบเสื้อผ้าทุกประเภท ก็ได้รางวัลมาเรื่อยๆ ค่ะ ได้ทั้งเงินรางวัล ได้ค่าที่พัก ค่ากินอยู่ พี่ส่งไปประกวดหมด ทั้งของกรมการส่งออก หรือจะเป็นต่างประเทศอย่างเช่น จีน สิงคโปร์ ไปทั่วเลย
ตอนนั้นมีการจัดตั้งสถาบันสอนออกแบบเสื้อผ้าเอง แล้วด้วย แต่ไม่ได้จดทะเบียนแน่นอน เพราะพี่ไม่ได้จบวิชาชีพครูมาเฉพาะ แต่ก็เคยได้ไปเป็นครูอาสาสมัครสอนวิชาชีพ ให้กับนักโทษหญิงในเรือนจำที่ลาดยาวปี 2425 ค่ะ ถือว่าเป็นปีแรกเลยนะ ที่มีการเดินแฟชั่นโชว์หน้าเรือนจำ ซึ่งคนที่เรียนเขามีโอกาสได้ออกแบบเอง ตัดเย็บเองและเดินแบบเองเลย

แล้วมาประกวดในงานนี้ได้อย่างไร
มีเพื่อนคนหนึ่งเขาแนะนำมาว่ามีประกวดชุดแบบนี้ สนใจมั้ย พี่ก็สนใจ เพราะคนเราพอเคยชอบอะไร สนใจอะไร มันก็อยากทำ เพราะมีความสุขที่จะทำ พี่เลยไปหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตว่าการประกวดนี้เขาส่งชุดอะไรประกวดกัน มีอะไรบ้าง ก็ปรึกษากับทีมงานพี่ที่เมืองไทยแล้วก็ตัดสินใจส่งผลงานเข้าประกวดเลย ซึ่งปีนี้ถือว่าฟลุ๊คมากๆ เพราะก่อนหน้านี้ ทางกองประกวดเขาจะให้บริษัทออแกไนเซอร์ดูแล หาชุดประกวดให้
นี่เป็นครั้งแรกของเราที่เขาเปิดโอกาสให้คนนอกได้ส่งผลงานเข้าประกวด เหมือนกับที่เมืองไทย ที่ตอนนี้ให้กลุ่มนักศึกษาและบุคคลภายนอกได้ส่งผลงานออกแบบชุดเข้าประกวดให้กับ Miss Thailand Universe

คอนเซ็ปและสไตล์ที่ใช้ประกวดเป็นอย่างไร
ทางกองประกวดเขาไม่ได้ให้ คอนเซ็ปอะไรเรามามากมาย แต่เขาอยากได้อะไรที่แสดงถึงความเป็นออสเตรเลียมากกว่า พี่ก็มาหาไอเดีย เปิดอินเตอร์เน็ตดูข้อมูลไปเรื่อยๆ ดูด้วยกว่าปีก่อนๆ เขาใส่อะไรกัน จนกระทั่งได้มา 2 ไอเดีย คือ หงษ์ดำ (Black Swan) อีกอันเป็นแนวปะการังขึ้นชื่อของออสเตรเลีย (Great Barrier Reef) ซึ่งชุดที่เป็นหงษ์ดำเข้าตากรรมการมากกว่า เหตุที่เลือก Black Swan ก็เพราะว่า หงส์ดำ เป็นสัญลักษณ์ของรัฐ Western Australia ส่วนหงษ์นั้นแสดงถึงความเป็นผู้หญิงที่สวยงาม สง่างาม ดูเหมาะกับนางงามเพราะเป็นงานโชว์ ส่วนสีดำก็เป็นสีที่เป็นสมัยนิยม ใส่ได้ทุกงานค่ะ
“เหตุที่เลือก Black Swan ก็เพราะว่า หงส์ดำ เป็นสัญลักษณ์ของรัฐ Western Australia ส่วนหงษ์นั้นแสดงถึงความเป็นผู้หญิงที่สวยงาม สง่างาม”.
พอได้คอนเซ็ปแล้วเราก็มาตีโจทย์ไอเดียเราอีกทีว่า Black Swan มันควรจะเป็นเสื้อผ้าประเภทไหน ดูปัจจัยอื่นๆ เช่น ดีไซน์ สไตล์นางงาม วัตถุดิบ จะเน้นสรีระของเขาไหม หรือจะปกปิดดี เราลงลึกตรงนั้น แล้วก็มาสรุปที่ว่าเราจะใช้ผ้าซีทรูเพื่อโชว์สัดส่วนนางงาม และซัพพอร์ทให้เขาอีกทีป้องกันโป๊ และเมื่อใส่แล้วอยากมีลักษณะเหมือน มีหยดน้ำมากที่สุด เหมือนลักษณะของนกที่เพิ่งขึ้นมาจากน้ำ กำลังกางปีกสยายแล้วมีหยดน้ำเกาะอยู่ บางชิ้นเราออกแบบให้ถอดออกได้ ด้วยหากต้องการที่จะโชว์สัดส่วนให้มากกว่านี้
พอสรุปได้หมดทุกอย่างแล้วก็ร่างสเก็ตแบบกระดาษให้น้องอีกคนเขาวาดเพื่อส่ง งานนี้เขาดูแค่กระดาษอย่างเดียวเท่านั้น วัดกันที่ไอเดียเลย หากได้รับการคัดเลือกจะให้เวลา 1 เดือนเพื่อตัดชุดให้กับนางงามค่ะ

รู้สึกอย่างไรบ้างคะที่ได้ติด 1 ใน 4
พอหัวหน้ากองการประกวด โทรมาบอกว่าเราเข้ารอบสุดท้าย พี่ก็ตกใจ ดีใจมาก ไม่น่าเชื่อว่าเราจะทำได้ มันก็เป็นโอกาสของเรา และก็เป็นโอกาสของคนไทย รู้สึกดีใจที่เรามาอยู่ที่นี่ เราก็ได้ทำอะไรที่เป็นชื่อเสียงให้กับคนไทย ให้คนไทยภูมิใจว่าเราก็เก่งสู้เขาได้ และตอบแทนแผ่นดินออสเตรเลีย ที่ให้เราอยู่ด้วยที่ให้โอกาสเราได้สร้างชื่อเสียงกลับไปเมืองไทย
พอถึงวันตัดสิน สื่อมวลชนออสเตรเลีย ไปกันเยอะมากเหลือเกิน มีทีวีช่อง 7 และช่อง 9 มาทำข่าว และมีช่างภาพจากหลายที่ เข้ามาถ่ายรูปนางแบบ กับนางงาม โดยเฉพาะกับ Renae Ayris ผู้เข้าประกวดนางงามจักรวาลของออสเตรเลีย ซึ่งทางกองประกวดเขา เอาชุดแต่ละชุดมาให้นางแบบใส่โชว์ ซึ่งผลการตัดสินจะใช้การกดโหวต
ทางทีมผู้จัดงานเขาให้เกียรติเราดีมาก ทั้งผู้สื่อข่าว พิธีกรและคนในงาน ส่งเสียงเชียร์เราตลอดเวลา งานนี้แม้ว่าพี่จะไม่ชนะ แต่ก็ถือว่าได้ประสบการณ์ที่ดีมาก เรียกว่าชนะใจคนดูมากกว่า เพราะเดินผ่านใคร เขาก็มากอดเรา มาชมเรา พูดตลอดงานว่า ชอบ Black Swan ทำให้เราภูมิใจมากค่ะ

อยากบอกอะไรกับคนไทยที่นี่ไหม
ดีไซเนอร์คนไทย-Behind The Black Swan เลยอยากฝากว่า อยู่ที่นี่ ถ้าเราตั้งใจทำอะไรแล้ว และเมื่อโอกาสมาถึง ก็ทำเถอะ คว้าเอาไว้ และตั้งใจทำให้ดีที่สุด เพราะเราคนไทยทำได้อยู่แล้ว เก่งอยู่แล้ว คนไทยประณีต ทำได้ทุกอย่าง อาหารเราก็ประณีต เย็บปักถักร้อยเราก็ละเอียด การที่เรามาทำงาน มีชั่วโมงเท่ากัน เหนื่อยเท่ากัน แต่หากเรามีโอกาสได้เงินมากกว่าก็ตั้งใจทำไปเถอะ อยู่ที่นี่ถ้าไม่ขี้เกียจ ไม่เลือกงาน ไม่ลำบากอยู่แล้วค่ะ