ดู๋ดี๋ป้ายแดง คุณจอห์นหรือสมพร โพธิ์ศรี คืออีกหนึ่งคนที่พลิกประวัติศาสตร์ชาติไทย ด้วยการนำเอาก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ สูตรดั้งเดิมจากเมืองไทยที่หาทานยากมาให้คนไกลบ้านอย่างพวกเราได้ลิ้มลองกัน
มีเพื่อนๆ ที่สนิทกันหลายคนอยากลองไปทานก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ที่ใครๆ ต่างพูดถึงกันอยู่ตอนนี้ แต่พอไปแล้วกลับหาไม่เจอว่าร้านอยู่ตรงไหนกันแน่ จริงๆ แล้วร้านนี้หาไม่ยาก ถ้ามาทางรถไฟเพราะร้านจะอยู่ชั้นบนสุดของสถานีรถไฟ Bondi Junction นั่นเอง และที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือลักษณะของร้านจะเป็นแบบ Food Court ที่มีเพียง Mcdonald’s เพียงร้านเดียวเป็นคู่แข่ง ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า Mcdonald’s ขายดีจนแทบจะเป็นอาหารประจำชาติของชาวออสเตรเลียไปแล้ว แต่น่าแปลกใจก็คือเมื่อมองไปตามโต๊ะแล้วอาหารของร้านดู๋ดี๋ป้ายแดงกลับขายดีกว่าอย่างไม่น่าเชื่อ
จุดเริ่มต้นของร้านดู๋ดี๋ป้ายแดงเกิดจากตอนที่คุณจอห์นกลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดอุดรธานี และได้มีโอกาสไปกินก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋สูตรมะนาวที่ร้านของญาติคนหนึ่ง แล้วเกิดชอบใจในรสชาติที่จัดจ้านลงตัว จึงเริ่มคิดว่าร้านก๋วยเตี๋ยวน่าจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าจะไปได้สวย เพราะปกติก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารที่คนไทยชอบทานกันอยู่แล้ว แถมกินได้ทั้งวันอีกต่างหาก
เลยตัดสินใจซื้อสูตรเพื่อจะเอามาทำขายที่นี่เป็นเจ้าแรก แต่พอกลับมาถึงซิดนีย์ถึงได้รู้ว่าสูตรที่ได้มายังไม่ลงตัวเนื่องจากวัตถุดิบเครื่องปรุงของที่นี่แตกต่างจากที่เมืองไทยอยู่หลายอย่าง จึงทำให้คุณจอห์นต้องกลับมาทำการบ้านใหม่หมดลองผิดลองถูกทำก๋วยเตี๋ยวให้คนอื่นลองทานจนกว่าจะได้รสชาติที่พอใจซึ่งใช้เวลากว่า 6 เดือน จนในที่สุดก็ได้สูตรที่ตนเองพอใจและมั่นใจว่า “ขายได้” มาให้ทุกคนได้กินกัน
เริ่มเมนูแรกของวันนี้ด้วยเป็นก๋วยเตี๋ยวดู๋ดี๋ลุยแหลก เหตุที่สั่งเพราะก๋วยเตี๋ยวถ้วยนี้มีีความพิเศษตรงที่จะมีเครื่องทุกอย่างใส่มาให้ครบครัน ไล่ตั้งแต่หมูนุ่มหมูเด้งกระดูกอ่อนและลูกชิ้นปลา รสชาติที่แสนกลมกล่อมจนแทบไม่อยากวางช้อนแบบนี้
คุณจอห์นบอกว่าร้าน ดู๋ดี๋ป้ายแดง นี้ใช้ของสดใหม่ทุกวัน อันไหนเหลือทิ้งหมดไม่มีเก็บค้างคืนแน่นอน กระเทียมจะซื้อมาปอกเองเพื่อให้ติดเปลือกนิดหน่อยพอเอามาเจียวไฟอ่อนๆ จะได้กระเทียมเจียวเหลืองกรอบหอมน่ากิน ส่วนแผ่นเกี๊ยวจะเอามาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนนำไปทอดเพื่อให้กินง่ายและดูสวยงาม หมูนุ่มที่ร้านจะผสมเอง หมักเองด้วยสูตรลับของทางร้านและต้องตีโดยใช้มือเหมือนทอดมันเพื่อให้หมูมันเด้ง หมูสับที่เอามาทำจะเป็นแบบมีมัน 30% ที่เหลือเป็นเนื้อล้วน
เวลาเอามาลวกจะได้ความหอมหวานละมุนลิ้นเวลารับประทาน ส่วนหมูเด้งเขามีสูตรเฉพาะ ที่ทำให้หมูเด้งของทางร้านนุ่มและหอมกลิ่นพริกไทยกระดูกหมูก็เป็นอีกหนึ่งเมนูขายดี ที่ทางร้านจะต้องใช้เวลาต้มให้มันนิ่มถึง 4 ชั่วโมง ความอร่อยอยู่ตรงส่วนที่เป็นเนื้อจะนุ่มพอดีกระดูกอ่อนก็จะนิ่มเพราะคัดแต่ชิ้นเล็กทำให้ไม่แข็งเกินไป
มาพูดถึงน้ำซุปกันบ้าง เมื่อตักใส่ปากกว้างสิ่งแรกที่ได้สัมผัสก็คือรสชาติจะออกสามรสคือรสเปรี้ยวของมะนาวที่คั้นกันสดๆ รสหวานและเค็มที่อร่อยเหมือนที่เมืองไทยเลย แถมยังได้กลิ่นหอมของถั่วลิสงและพริกป่นที่คั่วกันสดๆ ทุกวัน แต่กว่าจะมาเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ถูกใจใครหลายคนนั้นเมื่อก่อนที่ร้านเจอปัญหาก๋วยเตี๋ยวไม่ร้อนจนต้องมีไมโครเวฟไว้ให้บริการลูกค้า แต่ตอนนี้ร้านดู๋ดี๋เขารับประกันทุกชามร้อนถึงใจแน่นอน เพราะตอนนี้ที่ร้านมีหม้ออุ่นไฟฟ้าเอาไว้อุ่นหมูและตู้อบถ้วยก๋วยเตี๋ยวเพื่อให้ร้อน ตลอดเวลา
“ผมขอฝากขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่ให้การสนับสนุนร้านของเราด้วยดี มาตลอด รวมทั้งหลายท่านที่ให้ความเอ็นดูความมีน้ำใจซื้อของซื้อขนมมาฝาก เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าทุกท่าน เพียงบอกว่าอ่านเรื่องร้านดู๋ดี๋ป้ายแดงมาจาก VR Thai เรามอบส่วนลดให้ทันที 15% แล้วเจอกันครับ””
นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ทางร้านก็มีเมนูใหม่เอาใจลูกค้าที่เรียกร้องกันมาเริ่มที่ ส้มตำอาหารเหลาของคนไทยที่ต้องสั่งมากินคู่กับปีกไก่ย่าง เนื้อแดดเดียวหรือหมูแดดเดียวกับน้ำจิ้มแจ่วแบบบ้านๆ ที่เจ้าของร้านบอกของพวกนี้มันอยู่ในสายเลือด หรือถ้ามากันหลายคนอยากแนะนำให้สั่งไก่ย่างเขาสวนกวางมาลอง ไก่ย่างสูตรเมืองอุดรแท้ๆ ที่นัวอย่าบอกใคร เนื้อข้างในนุ่ม ย่างมาแบบสุกกำลังดีส่วนข้างนอกหนังเหลืองกรอบหอมกลิ่นเครื่องเทศที่ใช้หมักอย่างพิถีพิถัน
ของอร่อยที่อยากให้ลองจานต่อไปก็คือ ลูกชิ้นปิ้งและเกี๊ยวทอดที่ข้างในใส่ไข่นกกระทาและจะทอดทีละเสิร์ฟตามที่ลูกค้าสั่ง เพื่อความกรอบและที่สำคัญเมื่อทานคู่กับน้ำจิ้มลูกชิ้นสูตรเด็ดของทางร้านพร้อมกับแตงกวาและกะหล่ำปลีแล้วรับรองเป็นรสชาติที่เราๆ คุ้นเคยแน่นอน
ก่อนกลับตบท้ายด้วยขนมหวานทานแก้เผ็ดกันดีกว่า ร้านดู๋ดี๋เขามีให้เลือกมากกว่า 10 อย่าง ที่ไม่อยากให้พลาดก็เพราะน้ำเชื่อมเขาจะเอาไปอบควันเทียนให้มีกลิ่นหอมเหมือนน้ำสลิ่มก่อน เวลาทานแล้วจะรู้สึกถึงความหอมและความหวานแบบพอดี