ทันตแพทย์ไทยคนแรก สมชัย ทองสัมฤทธิ์ เป็นคนอำเภอบ้านเพลง จ.ราชบุรี นั่งเรือข้ามคลองไปเรียนที่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จนจบชั้นมัธยมต้น แล้วมาต่อมัธยมปลายที่เตรียมอุดม ปี 2510 มีเรื่องตลกเยอะ

สอบติดบอร์ดอันดับต้นๆ แต่สอบ Entrance ไม่ติดอะไรเลย
เชื่อไหมเขาทำข้อสอบ Entrance ของผมหาย ผมสอบติดบอร์ดอันดับต้นๆ แต่สอบ Entrance เลือกคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาไว้อันดับที่ 6 ยังไม่ติดเลยข้อสอบหาย ไปไหนก็ไม่รู้ อยู่มาวันดีคืนดีบอก เออหาเจอแล้ว ดูแล้วคะแนนเราไปได้ที่วิทยาศาสตร์จุฬา
ไปเรียนได้พักหนึ่ง ก็สมัครสอบทุนโคลัมโบ ของนิวซีแลนด์ ต้องติดบอร์ดถึง จะมีสิทธิ์สอบ เขาเอา 25 คน เราก็ได้ แต่เวลาไปมีแค่ 5 คน เพราะพวกอื่นเขาเข้าแพทย์ เข้าวิศวะกันหมด เขาก็ไม่ไปแล้ว


ไปเรียนภาษาอังกฤษก่อน 2 เดือนแล้วถึงเข้าเรียน ภาษาเราก็ไม่ดีฟังเลคเชอร์ไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้ว่าอาจารย์พูดอะไร เทอมแรกตกหมดทุกวิชา เราไม่เคยสอบตก ก็มุสิทีนี้ ปีแรกก็เลยผ่านทุกวิชาแถมบางวิชาทำได้ดีเสียอีก
ผมได้ทุนไปเรียน Marine Science เข้าไปถาม Professor ซึ่งเผอิญแกเป็น Tutor ผมด้วย ผมถามแกว่า คุณมีคอร์สให้ผมเรียนหรือเปล่า แกบอกมี เราถามว่า มีกี่คน แกยกนิ้วชี้ขึ้นโชว์เรา บอกหนึ่งคน แล้วชี้มือมาที่เรา
เผอิญรู้จักพี่คนนึงมา ต่อโททางทันตแพทย์ บอกทำไมไม่ลอง สมัครทันตแพทย์ดูละ เราก็ลองดู University of Otago เขาก็รับเข้าเรียนที่นั่น
ทางเจ้าของทุน คือรัฐบาลนิวซีแลนด์ก็ตอบโอเค แต่รัฐบาลไทยเซย์โน เราก็ไม่รู้ละเข้าไปเรียนเลย 2 เดือน แล้วกรมวิเทศฯเขาก็ไม่ยอม เราก็ไปหาท่านทูต ที่เวลลิงตัน ท่านก็กรุณาเขียนจดหมาย ไปถึงกรมวิเทศฯ ก็เลยได้เรียนสมใจ

จบแล้วก็ไปฝึกงานที่ Wellington Hospital
หลักสูตรการเรียน 5 ปี จบแล้วก็ไปฝึกงานที่ Wellington Hospital 1 ปี แล้วก็กลับไปสอนใช้ทุนคืน ที่มหิดล เรียนมา 5 ปี ทำงานต่ออีก 1 ปี เขาก็ตีว่า 6 ปี ก็ต้องใช้ทุนคืน 12 ปี
แต่พอเวลาให้เงินเดือน คิดของเราเทียบเท่า 5 ปี ก็ไม่ว่ากัน เงินเดือนสมัยโน้น 1,800 บาท ต้องออกไปรับทำงานข้างนอกก็พออยู่ได้ เป็นข้าราชการ ต้องสอบเลื่อนขั้น
มีการทำข้อสอบก็ไม่ให้ผมผ่านอีก ข้อสอบเป็นภาษาไทย เกี่ยวกับด้านกฏหมาย ผมตกไป 1 คะแนน เขาปรับผมตกหมด วิชาทันตแพทย์ไม่มีปัญหา ทุกคนรู้ว่าด้านทันตกรรมที่ NewZealand เป็น number one of the world ข้อเขียน ภาคปฏิบัติผ่านหมด ติดแค่นี้นะ ฟังดูแล้ว silly มาก

รออีกปีมาสอบ อีกสองปีมาสอบ เราเรียนมาหนัก หวังจะมาทำอะไรให้ประเทศชาติ ก็เลยเซ็งมาก คิดเลยเราจะอยู่เมืองไทย หรือไปทำงานเมืองนอก หัวหน้าภาคก็บอกให้ผมสอบใหม่ ผมก็ได้เต็ม
ต่อมาอีก 2 ปี อยากไปเรียน Postgrad อาจารย์ใหม่จบจากจุฬาเค้าได้ไปเรียน แต่ผมไม่ได้ เค้าบอกกฏใหม่ต้องจบ มหาวิทยาลัย ในเมืองไทย ผมก็ไม่ยอมสิ ก็เลยได้เรียน
อยู่มาจะต่อโทอีกเขาก็บอกไม่ได้อีก ผมก็บอกไม่สนใจแล้ว คราวนี้เงินเดือนน้อยยังพอทน ไอ้ไม่เห็นทางก้าวหน้านี่ไม่ไหว มีเมียมีลูก แฟน ผมเป็นคนออสซี่ ก็สงสารเค้าที่จะต้องมาทนอยู่ ก็ไปสถานฑูตออสเตรเลียน ตอนแรกก็จะไม่ยอม เราบอกแฟนเราเป็นคนที่นี่ ก็เลยได้ Permanent resident visa
ผมไปสมัครหมดทั้ง State election Federal election และ Council election อยู่ Unity ได้ปีนึงก็ได้เป็น Vice President อยู่มาอีกปีก็ให้เป็น President แรกๆก็โอเคนะ ตอนหลังมี internal problem ผมก็เลยเซย์กูดบาย คือเราต่อต้าน Discrimination แล้วในพรรคมาเป็นซะเอง.

ทันตแพทย์ไทยคนแรก ของโรงพยาบาล
พอดี Westmead Hospital เขาเปิดรับทันตแพทย์ ก็เลยได้เป็น ทันตแพทย์ไทยคนแรก ของโรงพยาบาล เราก็เลยได้สอนด้วยเป็น full time เงินเดือนก็ $25,000 ต่อปี ก็แบ่งส่งกลับไปใช้ทุนคืน
หลังจากนั้น 2 ปี ก็ใช้หนี้รัฐบาลไทยหมด การรู้จักเก็บรู้จักออมเลย ติดเป็นนิสัย ตั้งแต่นั้นเลยเก็บเงิน ซื้อบ้าน สะสมบ้าน เด็กหนุ่มสาวรุ่นใหม่ๆ อยากแนะนำ ให้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ไม่มีเสียเปล่า เป็นวิธีเก็บเงินที่ดีด้วย
แล้วมาเล่นการเมืองได้อย่างไร
สมัย Pauline Hanson เป็น สส. MP (Member of Parliament) เขาประกาศว่าประเทศนี้ เป็นของคนยุโรปอย่างเดียว เค้าไม่ต้องการให้คนเอเชียเข้ามา พอพูดใน Parliament เค้าก็ไม่มีความผิด แล้ว John Howard ตอนนั้นก็ไม่ชอบคนหัวดำ ก็ไม่ sanction คือให้พูดต่อ คนออสซี่ทั่วไป ก็เลยเอาใหญ่ ติดประกาศไปทั่ว Asian go home คือเขาต้องการ propose คนเอเชียทำผิดให้ส่งกลับบ้าน ถึงแม้จะเป็น citizen ก็ตาม

อะไรจุดประกายให้ลงเล่นการเมือง
ช่วงนั้น Pauline Hanson ค่อนข้างจะ popular เขาทำได้เพราะคะแนนเขามีถึง 10% หากว่า 2 พรรคใหญ่ได้คะแนนพอๆกัน ก็ต้องการเสียงจากเขา ชี้ว่าใครจะได้เป็นรัฐบาล แต่ตอนหลัง เขาก็ฆ่าตัวเขาเอง เพราะความรู้น้อยแล้ว ก็เดินนโยบายผิด
เราก็บอกตัวเราเอง Pauline เป็นแม่ค้าขาย fish and chip ความรู้ก็ไม่มี แต่มีความรู้ ความนึกคิดดีกว่าตั้งเยอะ เผอิญคุยกับคนไข้เขาบอกเพื่อนเขา กำลังจะตั้งพรรค Unity party say no to Hanson เท่านั้นเองจุดประกายผม
President Unity Party
ก็ไปร่วมประชุม มีคนประมาณ 28-29 คนที่ Strathfield เราต้องการต่อต้าน Hanson แค่นั้นแหละ ก็ตั้งพรรคขึ้นมา ผมไปสมัครหมด ทั้ง State election Federal election และ Council election อยู่ Unity ได้ปีนึงก็ได้เป็น Vice President
อยู่มาอีกปี ก็ให้เป็น President แรกๆก็โอเคนะ ตอนหลังมี internal problem ผมก็เลยเซย์กูดบาย คือเราต่อต้าน Discrimination แล้ว ในพรรคมาเป็นซะเอง
เราต้องยอมรับว่าคนจีนเขาแข็งกว่าเรา เราหลุดเข้าไปคนเดียว Dr. Peter Wong เข้าไปอยู่ใน Upper House อยู่ได้ 8 ปี ผมเป็น President บอกไม่ให้เราขึ้นว่าเรา ไม่มีใครสนับสนุนเราก็บอกงั้น you ก็เป็นเองแล้วกัน เราก็ walk out เขาก็ไปไม่รอด

คำแนะนำของผม สำหรับคนไทย คลื่นลูกใหม่ก็คือ สมัครพรรคใหญ่ๆเลยคือ Labour และ Liberal เสนอไปเรา ทำอะไรมาบ้าง เอาฝีมือวัดกันเลย ถามตอนนี้ไม่เล่นแล้ว การเมือง ขอสนับสนุนดีกว่า สำหรับการช่วยสังคม ก็ช่วยได้เท่าที่พอช่วยได้ ถ้าสนับสนุนได้ ก็พยายามสนับสนุนกัน การแบ่งแยกนี่ nasty มาก เรามีสังคมอยู่นิดเดียว