นวดแก้อาการ เน้นรักษา จากต้นเหตุของปัญหา Lek Therapeutic Clinic คลินิกการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้บริการ เพื่อที่ผู้ป่วยจะคลายจากอาการที่มีอยู่ได้ คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่คนๆ นึงจะใช้ทั้งศาสตร์ทางตะวันตกและตะวันออกมารักษาคนที่ป่วยจากโรคกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นให้หายขาดได้
แต่สำหรับอาจารย์เล็ก สมสกุล ป้อมมงกุฎแล้ว อาการเหล่านี้สามารถหายขาดหรือทุเลาลงได้ด้วยความรู้และประสบการณ์ของทั้งสองศาสตร์ที่สั่งสมมากว่า 20 ปี นำมาใช้รักษาคนไข้ จนใครๆ ที่รู้จัก ต่างก็ให้คำนำหน้าว่า “อาจารย์” ไปโดยปริยาย

อาจารย์เล็กจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขากายภาพบำบัด และเคยทำงานที่สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพซึ่งเป็นหน่วยงานบริการให้แก่ชุมชนและบุคลากรในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในขณะเดียวกันก็มีความสนใจด้านการนวดแผนไทย และได้มีโอกาสเรียนนวดไทยกับอาจารย์ผู้มากด้วยประสบการณ์ท่านหนึ่งจนชำนาญ จึงเอาทั้งสองแขนงมาประยุกต์ใช่ร่วมกัน
สำหรับในฉบับนี้ เราขอเปลี่ยนบรรยากาศจากการแนะนำร้านสวยๆ มาเป็นคลินิกนวดแก้อาการ โดยการผสมผสานระหว่างวิชาสหเวชศาสตร์กับการนวดไทยเข้าไปจนทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น

การผสมผสานกันระหว่างกายภาพบำบัดกับนวดแผนไทยนั้นดีอย่างไร
ผมเรียนทางด้านกายภาพบำบัดซึ่งเป็นศาสตร์ของทางตะวันตกที่เกี่ยวกับการ นวด ดัด ดึง จะเห็นได้ว่าในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา กายภาพบำบัดสามารถช่วยให้มนุษย์เรามีการป้องกันการบาดเจ็บได้มากขึ้น อย่างเช่น ก่อนการผ่าตัด คนไข้จะได้รับการอบรมในด้านกายภาพบำบัดว่าหลังจากผ่าตัดแล้ว เขาต้องดูแลตัวเองอย่างไร ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนที่หลังผ่าตัดแล้วส่งคนไข้กลับบ้านทันที ไม่ได้มีการแนะนำถึงเรื่องของการบริหารร่างกายที่ถูกต้อง

การนวดไทยทำให้เกิดความสบาย ผ่อนคลาย แต่ถ้าผู้ป่วยมีปัญหาเรื่องกระดูกหรือเส้นประสาท ก็อาจทำให้อาการแย่ลงกว่าเดิม ฉะนั้นต้องใช้การรักษาแบบกายภาพบำบัดแทน สิ่งที่ดีสำหรับนักกายภาพบำบัดบ้านเราก็คือ เราได้การผสมผสานที่ลงตัวของทั้งสองอย่างไว้ การนวดไทยเป็นการรักษาแบบองค์รวม ในขณะที่การนวดแบบตะวันตกเป็นแบบเน้นจุดต่างๆ ทำให้เราได้รู้ทั้ง 2 ระบบ ซึ่งสามารถมาดัดแปลงใช้ได้ อย่างเช่น ถ้าเราปวดสะบัก นวดแบบตะวันตกก็จะเน้นที่สะบักเลย แต่นวดไทยจะไล่ตั้งแต่ขาขึ้นไป สรุปก็คือ การนำเอาทั้งสองอย่างมารวมกันนั้นจะได้ประสิทธิผลมากกว่า

ในเรื่องจุดและเส้นของตะวันตกกับของไทยเหมือนกันไหม
ทั้งจุดของไทย จุดของจีน และจุดของตะวันตก หากเอามาเทียบกันแล้ว ประมาณ 90 – 95% จะเหมือนกันหมด แต่จุดอ่อนของนวดไทยอยู่ตรงนี้ เรารู้เส้น รู้จุดแต่เราไม่สามารถอธิบายลูกค้าได้ แต่เมื่อเรามีความรู้ เราก็จะสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าและอธิบายตามแบบตะวันตกได้ ลูกค้าจะเข้าใจว่านี่คือกล้ามเนื้ออะไร เส้นระหว่างกล้ามเนื้อนี้คืออะไร
“ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนการนวดให้กับลูกค้าหรือคนไข้พ้นวดจะต้องเตรียมความพร้อมทั้งกายวาจาและใจซึ่งทั้งสามองค์ประกอบนี้จะต้องสะอาดและอยู่ในศีล”

การนวดบ่อยๆ อาจทำให้เส้นประสาทช้ำหรือเกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
หากผู้นวดไม่มีความรู้ความชำนาญก็อาจทำให้เส้นประสาทช้ำได้ เพราะไม่รู้ว่าตรงไหนนวดหนักได้ตรงไหนห้ามนวดหนัก ส่วนนวดแล้วเกิดโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงนั้นไม่เกี่ยวแน่นอน เพราะโรคนี้เป็นโรคในระบบร่างกาย ซึ่งมันจะไปกดเส้นประสาท และยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่าเกิดจากอะไร อาการก็คือกล้ามเนื้อจะหายไป แล้วไขมันก็จะมาแทนที่ ซึ่งมักเสียชีวิตด้วยการที่กล้ามเนื้อหัวใจล้มเหลว แต่ก็มีสาเหตุหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ทางการแพทย์ก็คือ การอยู่ในบริเวณที่มีสารพิษ อย่างเช่น สารตะกั่วนั้นอาจก่อให้เกิดโรคนี้ได้

อยากให้พูดถึงร้านบ้าง
ผมเลือกทำเลที่ตั้งของร้านตรงที่ค่าเช่าไม่แพงมากและอยู่ใกล้ไทยทาวน์ เพราะกลุ่มลูกค้าหลักก็คงเป็นคนไทย และที่เลือกตรงนี้เพราะเดินทางสะดวก และเป็นย่านคนเอเชียด้วย ซึ่งจุดสำคัญในการให้บริการของร้านเราก็คือ ลูกค้าของผมที่มารักษา ผมอยากให้เขาหาย ไม่ต้องมาซ้ำอีก เพราะผมจะคิดเสมอว่า ลูกค้าคือญาติพี่น้อง เราก็จะใส่ใจกับเขามากกว่า เป็นห่วงเป็นใยมากกว่า แต่ถ้าเราคิดว่าเป็นลูกค้า ทัศนคติมันจะออกมาในลักษณะทำน้อยๆ เก็บเงินเขามากๆ แต่ถ้าเป็นญาติพี่น้องของเรา เราจะทำให้เขามากที่สุด แต่เก็บเงินเขาให้น้อย ซึ่งมุมมองมันต่างกัน นี่ก็เป็นหลักการง่ายๆ และเป็นหัวใจของการนวดที่ผมยึดถือมาตลอด

ลักษณะการรักษา
ใช้การรักษาด้วยวิธีกายภาพร่วมกับการนวดแบบไทย โดยจะใช้เครื่องอัลตร้า ซาวน์ในการรักษาควบคู่ไปด้วย ซึ่งหลักการของเครื่องชนิดนี้ก็คือ ใช้ความร้อนลึก (Deep Heat) ส่งคลื่นเสียงที่เปลี่ยนเป็นคลื่นความร้อนโดยไม่มีอันตรายหรือผลข้างเคียง ซึ่งจะช่วยให้ผังผืด กล้ามเนื้อ และหลอดเลือดบริเวณนั้นเกิดการขยายตัว เร่งการซ่อมแซมได้เร็วขึ้น รวมทั้งลดอาการปวดด้วย ซึ่งจะใช้ควบคู่กับเจล (Aqua Gel) ที่ทำหน้าที่เป็นสื่อในการเอาคลื่นความร้อนลงไปในเนื้อเยื่อ หลังจากทำการรักษาแล้ว ก่อนกลับผมก็จะให้คำแนะนำถึงวิธีดูแลตัวเองถึง วิธีการฟื้นฟูตัวเองการยืดกล้ามเนื้อที่ถูกวิธี และทำงานอย่างไรไม่ให้บาดเจ็บอีก

พูดถึงลูกค้าบ้าง
ลูกค้าคนต่างชาติกับคนไทยอย่างละครึ่ง ส่วนใหญ่ฝรั่งที่มารักษาก็จะเป็นพวกที่เล่นกีฬาแล้วเกิดอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ อย่างนักรักบี้ หรือพวกที่เล่นฟิตเน็ต ส่วนคนไทยก็จะมานวดแก้อาการ ก็จะเป็นผู้ที่ทำงานในร้านอาหาร พนักงานทำความสะอาด และพนักงานนวดที่มารักษาเยอะที่สุด นอกจากนี้ก็จะมีลูกค้าที่มานวดผ่อนคลายบ้าง แต่ก็น้อยกว่ามาแก้อาการ

นอกจากรับนวดแก้อาการแล้ว ยังมีสอนนวดด้วย
ใช่ครับ ผมจะสอน นวดแก้อาการ เน้นรักษา เป็นหลัก แต่ถ้านักเรียนอยากเรียนนวดไทยผมก็สอนให้ได้ การเรียนนวดไทยนั้นเป็นการเรียนพื้นฐานที่จะเรียนก่อนเรียนนวดแก้อาการ ซึ่งแต่ละหลักสูตรจะใช้เวลาเรียน 8 สัปดาห์ พอเรียนจบแล้วก็จะได้ประกาศนียบัตรตามที่เรียนไป ส่วนการนวดแก้อาการที่สอนนี้ จะสอนในแบบที่เอาการนวดแก้อาการของไทยมาผสมผสานกับความรู้ทางกายภาพบำบัด รวมทั้งเรียนรู้ชื่อโครงสร้างของร่างกายกระดูก เอ็น กล้ามเนื้อ และสอนหน้าที่การทำงานของกล้ามเนื้อในแต่ละส่วนด้วย ซึ่งก่อนมาเรียนนั้น ต้องมีการสัมภาษณ์พูดคุยกันก่อน เพราะอาชีพนี้ถ้าเรามาทำเพื่อเงิน เอาเงินตั้ง ใจไม่รัก ก็คงทำอาชีพนี้ได้ไม่นาน
การศึกษา
ปริญญาตรีสาขากายภาพบำบัด คณะสหเวชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ปริญญาโท สาขาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
Diploma of Remedial Massage, Mia College
สมาชิก MA Massage Australia
Lek Therapeutic Massage Clinic
Suit 209 Level 2, 431-439 Sussex St. Sydney, NSW 2000
Ph: 0423 441 567
Special Thanks: น้องมินนี่ที่มาเป็นหุ่นให้