Home Editor's Picks ฝรั่งรักษ์ไทย ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ที่มีส่วนร่วม

ฝรั่งรักษ์ไทย ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย ที่มีส่วนร่วม

by ChaYen
ฝรั่งรักษ์ไทย

ตั้งใจอยากจะปลุกกระแสรักความเป็นไทยกันแบบเล็กๆ ด้วยการไปสัมภาษณ์ชาวออสเตรเลีย (ฝรั่งรักษ์ไทย) ที่หลงไหลความเป็นไทย ถึงแง่คิดและความภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่เขาได้มีส่วนร่วมเหล่านี้กัน หากอ่านจบกันแล้ว พวกเราทีมงานอยากให้ช่วยกันตอบคำถามกันหน่อยว่า “เขายังรักประเทศไทยเลย แล้วพวกเราคนไทยแท้ๆ ไม่รักเมืองไทยกันบ้างเหรอครับ”

Dr. Wilbur Hughes

ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันคือหน้าที่ของผม

Dr wilbur ฝรั่งรักษ์ไทย

คุณหมอวิลเบอร์ท่านนี้หลงไหลในความเป็นไทยมานานนับสิบปี หลังจากสนใจเกี่ยวกับโรคระบาดที่เกิดตามภาคอีสานของไทยในสมัยนั้น จึงได้รับเลือกจากโรงพยาบาล Westmead ให้ไปทำงานที่นั่นเป็นเวลา 5 เดือน รวมถึงการที่ได้กลับไปทำงานที่เมืองไทยอีกหลายครั้ง จนทำให้คุณหมอได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย จนรู้สึกคุ้นเคยและรู้จักนิสัยใจคอคนไทยเป็นอย่างดี
เหตุผลที่คุณหมอเข้ามาช่วยเหลือคนไทยในนามสวัสดิภาพสมาคมนั้น เกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับทุนจากโรงพยาบาลให้ไปทำงานที่เมืองไทย ซึ่งก่อนไปคุณหมอได้รู้จักกับคุณนิลวรรณ จิรารัตน์วัฒนา ประธานคณะกรรมการบริหารของสวัสดิภาพสมาคมคนปัจจุบัน ในฐานะที่เป็นครูสอนภาษาไทยให้คุณหมอในขณะนั้น หลังจากที่ได้คลุกคลีอยู่ในแวดวงคนไทยอยู่บ้างจึงสนใจที่จะเข้ามาทำงานช่วยเหลือชุมชนคนไทยที่นี่ ปัจจุบันคุณหมอเกษียณอายุจากงานประจำมาเป็นที่ปรึกษาทางด้านโลหิตวิทยาของโรงพยาบาล Westmead และทำงานให้กับสวัสดิภาพสมาคม (Thai Welfare Association) แบบอาสาสมัครที่ไม่ได้ผลตอบแทนใดๆ นอกจากความภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนไทย

thailand

“คนออสเตรเลียส่วนใหญ่เป็นคนดี แต่มีบางคนที่ไม่ดี พาผู้หญิงไทยมาอยู่ที่นี่แล้วทำร้ายเขาทั้งทางร่างกายและจิตใจ บางคนพามาอยู่ด้วยแต่ไม่ทำเรื่องการอยู่อาศัยให้ถูกกฏหมาย บางคนถูกกักขังหน่วงเหนี่ยว ไม่ให้พบเจอกับผู้คนภายนอก ไม่ได้รับการศึกษาโดยเฉพาะภาษาอังกฤษ จึงไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ รวมทั้งในบางกรณีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งผมมองว่า นี่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขโดยด่วน

ผมจึงอยากเข้ามาช่วยเหลือตรงนี้ ซึ่งที่ทำมาเราก็ช่วยในเรื่องการแต่งง่าน การเงิน การย้ายถิ่นฐานให้ถูกต้อง โดยที่องค์กรของเราจะทำงานโดยการส่งเรื่องต่อไปยังหน่วยงานของรัฐอื่นๆ ที่ทำหน้าที่ในส่วนนั้นๆ ผมมีอาชีพเป็นหมอ หน้าที่ของผมคือช่วยเหลือคน แต่การที่ผมเข้ามาช่วยเหลือคนไทยก็เพราะผมมีความเกี่ยวพันธ์กับคนไทย จากที่เคยไปอยู่เมืองไทยมา ได้คลุกคลีกับคนไทย จนเกิดความสนิทสนมและรักคนไทยนั่นเอง”

“อาหารไทยเป็นอะไรที่ผมชอบมาก ผมทานเผ็ดได้ เผลอๆ ทานเผ็ดกว่าคนไทยบางคนด้วยซ้ำ ผมชอบทานส้มตำปลาร้ากับข้าวเหนียว ตอนสั่งต้องขอพริกสิบเม็ดด้วย และอีกอย่างที่ผมรักในความเป็นไทยก็คือพระพุทธศาสนาในประเทศไทยที่เข้ากับคนไทยได้ดี ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ไม่เข้มงวดเหมือนกับศาสนาอื่นที่เป็นขาวดำไปเลย ไม่มีตรงกลาง และเป็นศาสนาที่ให้ลองปฏิบัติดูก่อนที่จะเชื่อ โดยไม่มีการบังคับ”

คุณหมอวิลเบอร์ให้แง่คิดที่น่าสนใจว่า “ส่วนตัวผมเอง ผมคิดว่าคนออสเตรเลียไม่ใช่ฝรั่ง แต่เราเป็นเอเชีย คนฝรั่งหมายถึงคนที่อาศัยอยู่ในทวีปยุโรป แต่เราอยู่ทวีปเอเชีย เราเป็นส่วนหนึ่งของทวีปนี้ ผมเองก็เป็นชาวต่างชาติเหมือนพวกคุณ ปู่ยาตายายผมก็มาจากอังกฤษ ผมก็ไม่ใช่คนดั้งเดิมของประเทศนี้เหมือนกัน แต่เราก็เป็นส่วนหนึ่งของความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศนี้ที่อยากให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข”

Wilbur ฝรั่งรักษ์ไทย

Special Thanks: Thai Welfare Association (TWA)
Suite 204, Level 2, 78 Liverpool Street,
Sydney NSW 2000

คนไทยจำนวนไม่น้อยที่มาอยู่ที่ออสเตรเลียแล้วอาจหลงลืมความเป็นไทยไปบ้าง อาจด้วยเหตุผลที่ตนเองที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน อาจอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติจนไม่มีโอกาสได้ใช้ภาษาไทย หรือด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่ที่ทำให้คนเหล่านี้กลายเป็นคนที่พูดภาษาไทยไม่ถนัด หรือบางคนถึงขั้นไม่อยากสื่อสารด้วยภาษาไทยกับคนได้ด้วยกันก็มี .


Colin Bryson

ผมรักพระพุทธศาสนาและพระเจ้าอยู่หัว

Colin ฝรั่งรักษ์ไทย

“คนไทยที่ย้ายมาอยู่ที่ออสเตรเลียหาโอกาสมาวัดยากกว่าอยู่ที่เมืองไทย ปกติถ้าอยู่เมืองไทยอาจไปวัดกัน 3-4 ครั้งต่อเดือน แต่พอมาอยู่ที่นี่กลายเป็นเดือนละครั้ง ก็เลยอยากให้ช่วยกันมาทำบุญ มาช่วยเหลือพระให้มากๆ หน่อย เพราะพระที่นี่อยู่กันลำบากกว่าที่เมืองไทย อย่างถ้าเป็นเมืองไทย ถ้าเราเห็นพระเดินอยู่ข้างถนน พระท่านกำลังจะไปไหน คนไทยส่วนใหญ่ก็จะนิมนต์ให้ขึ้นรถ พาพระไปส่ง ทำอะไรก็มีเด็กวัดคอยช่วยเหลือ คอยเป็นธุระให้ แต่ที่นี่ไม่มี ค่าครองชีพก็สูง” นี่เป็นคำพูดของชายวัยกลางคนที่แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยและความเข้าใจที่มีต่อพระไทย โดยเฉพาะกับวัดพุทธรังสี แอนนันเดลที่คุณโคลิน ไบรสัน มีให้มาช้านาน


พระบุญนำ มนาโป พระวัดพุทธรังสี แอนนันเดลพูดถึงคุณโคลินว่า “เขาเป็นคนมีน้ำใจ นิสัยก็เหมือนคนไทยเลย มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีสัมมาคารวะ โคลินช่วยงานวัดหลายอย่าง ให้ความช่วยเหลือท่านเจ้าอาวาสและพระรูปอื่นในวัด พาพระไปทำธุระ พาไปซื้อของ ซ่อมแซมวัด ถ้ามีปัญหาแล้วโทรไปหาให้เขามาช่วย เขาจะมาช่วยเสมอ เมื่อก่อนไปทอดผ้าป่าที่ Gold Coast เขาก็เอารถทัวร์ของบริษัทที่เขาทำงานอยู่ ขับไปให้โดยไม่คิดค่าจ้าง คิดแต่ค่ารถอย่างเดียว หรือเมื่อปีสองปีที่แล้ว ทางวัดจัดทัวร์ทำบุญเก้าวัด เขาก็อาสาเป็นคนขับรถพาไปให้โดยไม่เอาอะไรอีกเช่นกัน”

คุณโคลิน ฝรั่งรักษ์ไทย หันมานับถือศาสนาพุทธหลังจากประสบอุบัติเหตุรุนแรง ถึงขั้นหยุดหายใจไป ประมาณ 2-3 นาที หลังจากที่ฟื้นขึ้นมาก็ไม่สามารถทำงานได้ถึง 12 ปีเต็ม ในช่วงนั้นก็ใช้ชีวิตตามที่ต่างๆ จนเริ่มสนใจเกี่ยวกับพุทธศาสนาจากคนอินเดียท่านหนึ่งทางทีวี และเริ่มสนใจใน พระพุทธศาสนา มากขึ้น จนวันหนึ่งได้พบกับเพื่อนของเพื่อนคนหนึ่งที่แนะนำให้มาที่วัดแอนนันเดล และได้พบกับพระครูวิเทศ ธรรมานุศาสน์ เจ้าอาวาส เมื่อประมาณเกือบ 10 ปีที่แล้ว พอได้คุยกับเจ้าอาวาสก็รู้สึกเลื่อมใสในตัวท่านมากและรู้สึกสนิทกันเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน หลักจากนั้นก็มาบ่อยขึ้นเรื่อยๆ เพราะรู้สึกว่ามาแล้วอบอุ่น สบายใจ และรู้สึกว่าตนเองเข้ากับวิถีชีวิตชาวพุทธแบบไทยๆ ได้ดี

Wat-Den-Sa-Lee-Si

“เมื่อก่อนผมทำงานอยู่แถวนี้ จึงมาวัดได้บ่อย บางครั้งที่มาได้ช่วยเหลือคนไทยที่มีปัญหาเรื่องภาษา ช่วยกรอกฟอร์ม ช่วยอธิบายเอกสาร บางคนไม่เข้าใจเรื่องกฏหมาย ระเบียบข้อบังคับของที่นี่ ผมก็จะอธิบายให้ฟัง พอมาวัดบ่อยๆ ก็ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ก็ทำให้ทัศนคติของผมเปลี่ยนไป ผมเคยเป็นคนก้าวร้าว ไม่ยอมคน ใครแรงมา ผมก็แรงตอบ แต่พอมานับถือศาสนาพุทธจิตใจก็เย็นลง มีความอดทนอดกลั้นมากขึ้น ใช้เหตุผลมากขึ้น จนทุกวันนี้ก่อนออกจากบ้านจะต้องสวดมนต์ทุกครั้ง นอกจากนี้ ผมเคยป่วยหนัก จนต้องใช้วิธีการรักษาแบบตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกัน ผมสวดมนต์ นั่งสมาธิ แล้วอาการก็ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จนหมอเองก็ยอมรับว่ารักษาด้วนการนั่งสมาธินั้นทำให้อาการของผมดีขึ้น”

“ครั้งแรกที่ผมไปเมืองไทย มันทำให้ผมนึกถึงออสเตรเลียเมื่อ 30 – 40 ปีก่อน ที่กฏหมายไม่ได้เคร่งครัดเหมือนในปัจจุบัน ใครจะทำอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดกฏหมาย พอได้ไปอยู่ที่นั่นแล้ว ผมรู้สึกว่ามันเข้ากับวิธีการดำเนินชีวิตของผมได้ดี ผมสัมผัสได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของผืนแผ่นดินไทย ได้เห็นได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทยจากการที่ได้ดินทางไปตามจังหวัดต่างๆ ความสนิทสนม คลุกคลีกับคนไทยที่มีมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ทำให้ผมเข้าใจคนไทยมากขึ้น อย่างเช่น ต้องระวังคำพูดบ้าง พฤติกรรมใดที่ไม่เหมาะสมก็ไม่ควรทำ จนตอนนี้ผมมีความคิดว่า เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผมอยากจะไปอยู่เมืองไทย ไปบวชแบบไม่สึกเลย”

นอกจากเรื่องศ่าสนาแล้ว คุณโคลินยังรักและเทิดทูลในหลวงเหมือนคนไทยเราอีกด้วย “เท่าที่ผมรู้มา พระองค์ท่านทำหลายอย่างเพื่อประชาชนคนไทยจริงๆ พระองค์ทรงเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ซึ่งผมเองก็ซาบซึ้งตรงนี้มาก หลายโครงการที่พระองค์ท่านดำริอย่างเช่น ช่วยสร้างอาชีพให้กับชาวเขาแทนการปลูกฝิ่นทางภาคเหนือ และทำโครงการเกี่ยวกับการเกษตรอีกมากมาย ซึ่งผมมองว่าพระองค์ท่านเปรียบเสมือนจิตวิญญาณของประเทศไทยจริงๆ”

Collin ฝรั่งรักษ์ไทย

Special Thanks: Buddharangsee Temple (Annandale)
49 Trafalgar St, Annandale, NSW 2038
Ph: 02 9557 2879, 02 9557 5612


Stuart McKinnon

มวยไทยมันอยู่ในใจผม

Stuart ฝรั่งรักษ์ไทย

สจ๊วต แม็คคินนอน หนุ่มออสซี่เชื้อสายสก็อตแลนด์ผู้นี้ หลงใหลในศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็กๆ คุณสจ๊วตกับน้องชายเริ่มเล่นคาราเต้ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ โดยที่คุณพ่อที่เป็นนักคาราเต้สายดำเป็นคนสอนให้ หลังจากเล่นคาราเต้จนอายุประมาณ 16 – 17 ปี มวยไทยก็เริ่มได้รับความนิยมในประเทศออสเตรเลีย สองพี่น้องคู่นี้ก็เกิดความสนใจและได้ลอง ได้เรียนรู้ จนชอบมวยไทยตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันคุณสจ๊วตกับน้องชายทำธุรกิจยิมในนาม Bulldogs Gym ที่เน้นสอนมวยไทยแบบรู้จริงมา 18 ปีแล้ว

คุณสจ๊วตยกมือสวัสดีทักทายแบบคนไทยก่อนที่จะเล่าประวัติให้ฟังว่า “เหตุผลที่ผมชอบมวยไทยนั้นก็เพราะมันเป็นศิลปะการต่อสู้ที่สวยงามแต่แฝงไว้ด้วยอันตรายและความแข็งแกร่ง มวยไทยใช้ได้จริง คาราเต้อาจจะใช้เวลาเป็น 10 ปีเพื่อที่จะเรียนรู้มัน แต่มวยไทยคุณเรียนรู้มันได้แค่ 6 เดือน ถ้าผู้ฝึกมีร่างกายที่แข็งแรงพอ”

Stuart ฝรั่งรักษ์ไทย

ครูคนแรกที่สอนมวยไทยให้คุณสจ๊วตก็คือ Nick Stone แชมป์มวยไทยชาวอังกฤษที่มาเปิคค่ายมวยที่ซิดนีย์ หลังจากนั้นก็ไปเรียนมวยไทยอย่างจริงจังต่อที่ค่ายมวยแฟร์เท็กซ์ในเมืองไทย “ผมไปเรียนมวยที่นั่นประมาณปีละ 3 – 4 ครั้ง ครั้งละอย่างน้อย 1 เดือน ใช้เวลาทั้งหมดอยู่ในค่ายมวย ได้ฝึกมวยกับนักมวยไทยระดับตำนานอย่าง อภิเดช ศิษย์หิรัญ นอกจากนี้ผมยังได้เรียนรู้ ใช้ชีวิตแบบคนไทยทั่วไป ฝึกพูดภาษาไทย ทานอาหารไทยแบบไทยแท้ๆ อีกด้วย”

คุณสจ๊วตกล่าว “ผมไปต่อยชิงแชมป์มาแล้วทั่วโลก ได้รางวัลมามากมาย ตั้งแต่แชมป์ระดับรัฐ ระดับประเทศ ระดับคอมมอนเวลท์ และระดับโลก แต่ไม่เคยขึ้นชกที่เมืองไทย น้องชายผมเคยขึ้นชกที่เวทีลุมพินี จนทุกวันนี้เขาก็ยังขึ้นชกอยู่ ซึ่งผมเองก็ต้องเทรนให้เขาอยู่ ส่วนตัวผมเอง ผมเลิกชกมา 5 ปีกว่าแล้ว แต่ตอนนี้กลับมาชกอีกครั้ง อย่างที่จะจัดในเดือนนี้ ผมเป็นโปรโมเตอร์ด้วยแล้วก็ขึ้นชกด้วย ก็คิดว่าน่าจะมีผู้ชมประมาณ 2,000 คนมาดูมวยไทยที่ต่อยโดยคนออสซี่”

สิ่งที่คุณสจ๊วตบอกกับเราถึงประโยชน์ของมวยไทยที่ได้นอกจากเรื่องสุขภาพแล้ว ความมีระเบียบวินัย ความอดทน อดกลั้น และความเสียสละ ก็เป็นปรัชญาที่แฝงอยู่ในมวยไทยที่คุณสจ๊วตได้รับตลอดหลายปีที่ผ่านมา “มวยไทยช่วยคนหลายคนที่มาฝึกมวยที่นี่ หลายคนมีปัญหาเรื่องยาเสพย์ติด ติดคุกเพราะควบคุมตัวเองไม่ได้ พอพวกเขาได้มาฝึกตรงนี้ก็เหมือนทำให้เขามีจุดมุ่งหมาย และได้เรียนรู้ไปในตัว”

bulldoggym

”จากการที่ผมฝึกมวยมาตลอด ผมรู้สึกว่า ยิ่งฝึกมาก ยิ่งทำให้ปัญหามีน้อย เพราะผมมีอะไรที่ทำให้คนนั้นรู้ว่า ผมมีดีอะไร ถ้าแน่จริงก็ขึ้นเวทีมาต่อยกันให้รู้ไปเลยว่ามีดีจริงหรือเปล่า ไม่ใช่เก่งแต่ข้างนอก หรือไปทำกับคนไม่มีทางสู้ ผมคิดว่าเมื่อเราเรียนรู้วิชาการต่อสู้แล้ว เราก็จะมีทัศนคติที่เป็นบวก พูดจากันด้วยเหตุผล และเคารพกันมากขึ้น”

“ผมชอบทุกอย่างที่เกี่ยวกับเมืองไทยเลยนะ อย่างถ้าได้ไปเมืองไทย ผมจะรู้สึกว่าสบายๆ เหมือนได้หยุดทุกอย่าง ไม่เหมือนที่นี่ต้องมีอะไรทำเยอะแยะไปหมด หยุดไม่ได้เลย ชอบอาหารไทยกินได้ทุกอย่าง เผ็ด ไม่เผ็ด กินได้หมด ชอบคนไทย นิสัยคนไทยง่ายๆ ไม่มีอะไรมาก อารมณ์ดี ผมมักจะแนะนำให้คนที่มาเทรนกับผมไปเที่ยวเมืองไทยกัน ไปพบกับประสบการณ์ใหม่ อาหารอร่อย สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ชีวิตกลางคืนก็สุดยอด”

คุณสจ๊วตทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า ”ผมรักเมืองไทย อยากแนะนำประเทศไทยให้คนอื่นรู้จักเมื่อมีโอกาส ทุกวันนี้ลูกชายผมสองขวบครึ่ง ก็เริ่มฝึกมวยไทยแล้ว คิดว่าอีก 2 ปีข้างหน้าจะเอาไปฝึกมวยที่เมืองไทยด้วยกัน ผมรู้สึกภูมิใจนะที่ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเผยแพร่กีฬามวยไทยให้เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้นจากการทำค่ายมวย สอนมวยไทยหรือแม้กระทั่งจัดการแข่งขันที่ทำให้คนสนใจมาดูมวยไทยกันมากมาย”

Stuart

Special Thanks: Bulldog Gym
19/8 Victoria Ave, Castle Hill, NSW 2154
Ph: 0425 364 574

หลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นมุมมอง เป็นแง่คิดดีๆ จากผู้คนเหล่านี้ อาจช่วยย้ำเตือนให้พวกเราคนไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญ ก่อนที่ความเป็นไทยเหล่านี้จะสูญหายไปตามกาลเวลา จนลูกหลานและบรรพชนรุ่นหลังอาจไม่รู้ว่าวัฒนธรรมไทยคืออะไร แล้วจะไปเรียนรู้ได้ที่ไหนเมื่อถึงวันนั้น

Related Articles