มุมอาหารไทย ที่ใครมาก็ต้องอยากลอง มีประสบการณ์ในด้านร้านอาหารมาพอสมควร รวมทั้งมีแนวความคิดสร้างสรรค์ ที่แตกต่างกันไป จนถือได้ว่าเป็นการยกระดับคุณภาพของอาหารไทยให้มีมาตรฐาน จนเป็นที่ยอมรับในสายตาลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ร้านอาหารไทยในซิดนย์มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทั้งในเรื่องของหน้าตาอาหารและบรรยากาศภายในร้าน จนเรียกได้ว่าเป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายเจ้าของกิจการร้านอาหารกันเลยทีเดียว จากรุ่นบุกเบิกที่ทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 20 ปี กลายมาเป็นเจ้าของร้านรุ่นใหม่
จะพาท่านผู้อ่านไปชิม มุมอาหารไทย ที่ใครมาก็ต้องอยากลอง ที่ผสมผสานความเก่าและใหม่ของอาหารไทยได้อย่างลงตัว โดยเจ้าของร้านรุ่นใหม่ ทั้ง คุณกัญธิมา แก้วศรีงาม และ คุณกุลชาติ จันทร์พินิจรัตน์ เจ้าของร้าน Bangkok Corner ที่เรียกได้ว่าเป็นคนไทยรุ่นที่สองในวงการร้านอาหารไทยในซิดนีย์ ปัจจุบัน Bangkok Corner ร้านนี้เปิดบริการลูกค้าย่าน Sutherland Shire มาได้ 5 ปีแล้ว
คุณกัญธิมา เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของร้านว่า “ร้านนี้เคยเป็นร้านอาหารไทยมาก่อน แต่เขาหมดสัญญาเช่า แล้วเราก็เข้ามาทำร้านต่อ ช่วงแรกจะเจอปัญหาเรื่องโต๊ะและเก้าอี้นั่งที่จะออกแนววัยรุ่นตามคอนเซ็ปเดิมของเจ้าของร้านเก่าคือจะเป็นเก้าอี้ไม้เตี้ยๆ ไม่มีพนักพิง แต่กลุ่มลูกค้าที่นี่จะเป็นกลุ่มครอบครัวและคนมีอายุ จึงทำให้เขานั่งไม่สบายนัก เราก็เลยต้องเปลี่ยนโต๊ะเก้าอี้เกือบทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาตรงจุดนี้”
สิ่งสำคัญที่ทำให้การบริหารจัดการร้านเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพก็คือทั้งคุณกัญธิมาและคุณกุลชาติ ต่างเข้ามาดูร้านเองทุกวัน โดยแบ่งหน้าที่กันระหว่างในครัวและหน้าร้าน ซึ่งเมื่อเจอปัญหาก็สามารถแก้ไขและตัดสินใจได้ทันที รวมทั้งการควบคุมคุณภาพของอาหารและการบริการที่เป็นหัวใจหลัก ซึ่งตรงจุดนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ร้านประสบความสำเร็จได้ถึงทุกวันนี้ และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวไปอย่างรวดเร็วจึงทำให้การบริหารร้านต้องเปลี่ยนตามไปด้วยเช่นกัน
คุณกุลชาติกล่าวว่า “ทุกวันนี้คนสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชั่นกันมากขึ้น ตรงจุดนี้เราก็ต้องมีการปรับกลยุทธ์เพื่อเพิ่มยอดขายและดึงดูดความสนใจของลูกค้าโดยการจัดโปรโมชั่นในช่วงเทศกาลต่างๆในขณะเดียวกัน ก็ไม่มองข้ามการบริการที่ดีให้กับลูกค้าที่มาทานในร้าน เพื่อให้กลุ่มลูกค้านี้กลับมาทานที่ร้านเราอีก”
สำหรับสูตรอาหาร คุณกุลชาติพูดถึงที่มาของเมนูในร้านว่า เป็นเมนูที่ได้มาจากประสบการณ์ร้านอาหารที่เคยทำ ประกอบกับเป็นคนชอบทำอาหารอยู่แล้ว จึงได้ไอเดียและความรู้มาจากการอ่านหนังสือบ้าง ค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ตบ้าง และได้รับความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจากญาติที่เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยมาก่อนในเรื่องของสูตรอาหาร โดยที่คุณกุลชาติก็นำมาปรับรสชาติ และการจัดจานเพื่อให้เข้ากับสไตล์การทำอาหารของคุณกลุชาติเอง
เมนูน่าสนใจของทางร้าน Bangkok Corner ที่อยากแนะนำในวันนี้ มาเริ่มกันเลยกับจานแรก ปลากรอบ เมนูนี้ได้ไอเดียมาจากเมี่ยงคำ แต่เปลี่ยนจากเครื่องเคียงของเมี่ยงคำมาเป็นปลากรอบเพื่อให้ลูกค้าทานง่ายและรู้สึกคุ้นชินกับรสชาติมากกว่า ซึ่งปลากรอบนั้นเข้ากันได้ดีกับใบชะพลู พอทานคู่กันก็สามารถกลบกลิ่นของในชะพลูได้เป็นอย่างดี เมนูทานเรียกน้ำย่อยจานต่อมาเป็นเมนูของคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ นั่นก็คือ สลัดโรล ที่ส่วนผสมประกอบไปด้วยกุ้งและแฮมที่นำมาห่อกับ แครอท แตงกวา และผักสลัด ทานคู่กับน้ำจิ้มรสเด็ดที่ผสมผสานระหว่างน้ำยำของทางร้านและมายองเนสรสชาติเข้ากันสุดๆ จนคนไม่ค่อยชอบทานผักก็สามารถ
ทานได้
เมนูขายดีของทางร้านส่วนใหญ่ก็จะคล้ายๆ กับร้านไทยทั่วไป แต่ร้านนี้จะมีเมนูยอดนิยมอีกอย่างหนึ่งที่ขายดีไม่แพ้ผัดไทย และผัดซีอิ้ว เลยทีเดียว นั่นก็คือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ที่มีเคล็ดลับอยู่ตรงการหมักไก่ก่อนนำมาผัดและวิธีการผัดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนทำให้ไก่มีรสชาติที่ดีและไม่แข็งจนเกินไป ก่อนสิร์ฟมีไข่ดาวทอดแบบยางมะตูมมาให้ ยิ่งทำให้น่าทานเข้าไปอีก
“ เคล็ดลับความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งของร้านนี้ก็คือ ความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบการกำหนดราคากับปริมาณอาหารให้อยู่ในเกณท์ที่สมเหตุสมผล ซึ่งทางร้านมองว่า ราคาขายไม่แพง แต่ปริมาณของอาหารที่ทำออกมาแต่ละจานอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ลูกค้าก็สามารถสั่งเมนูอื่นมาทานได้อีก ซึ่งก็เป็นแนวความคิดที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีและที่สำคัญหน้าตาอาหารนั้นออกมาดูดี ก็ยิ่งทำให้อาหารดูน่าสั่งมาทานมากยิ่งขึ้น ”
ถ้าเป็นกลุ่มลูกค้าคนมีอายุในย่านนี้ แกงกระหรี่กุ้ง จะขายดีเป็นพิเศษ เพราะความกลมกล่อมของเครื่องแกงที่ทำจากผงกระหรี่นั้นผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัว และไม่เหมือนร้านอื่น แถมยังได้ความหอมของใบโหระพาสดๆ ทานแล้วสดชื่นอย่าบอกใคร
เมนูอีกจานที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันก็คือ หมูสามชั้นผัดน้ำมันหอยและน้ำมันงา ทางร้านใช้หมูสไลด์ชิ้นพอดีคำ นำมาผัดกับ น้ำมันหอย แคปซิคัม หัวหอม บล็อกโคลี่ และเพิ่มความหอมน่ารับประทานด้วยน้ำมันงาที่นำลงไปผัดด้วยกัน จนได้รสชาติที่กลมกล่อม สั่งมาทานตัดรสจัดๆ ของเมนูจานอื่นได้เป็นอย่างดี
เมนูปิ้งย่างนั้นอยู่คู่กับชาวออสซี่มาอย่างที่เรียกได้ว่าแทบจะแยกกันไม่ออก อย่าง ซี่โครงหมูย่าง ที่มีขายตามร้านฝรั่ง หรือในบิสโทร นั้นคงการันตีได้ว่าเมนูนี้เป็นที่นิยมมากเพียงใด คุณกลุชาติจึงนำไอเดียนี้มาทำขายเช่นเดียวกัน แต่ปรับรสชาติให้เป็นแบบสไตล์ไทยๆ โดยคุณกุลชาติบอกว่าซี่โครงหมูก่อนที่จะนำมาย่างนั้น จะต้องนำมาต้มกับเครื่องเทศและน้ำซอสของทางร้าน พอเวลาย่างก็จะนำซี่โครงหมูมาทาด้วยน้ำหมักสไตล์หมูปิ้งแบบไทยๆ จากนั้นก็จะนำไปย่างจนสุก และเสิร์ฟมากับน้ำจิ้มแจ่วและน้ำจิ้มไก่ให้ลูกค้าได้เลือกตามความชอบ
เมนูจานสุดท้าย ขอตอบโจทย์ร้านที่อยู่ใกล้ทะเลด้วยเมนูชื่อเพราะอย่าง 2 Season ที่นำกุ้งไซส์ใหญ่และปลาหมึกขนาดกำลังดีที่คัดสรรกันมาสดๆ ไปย่างจนสุกได้ที่ แล้วคลุกเคล้าด้วยน้ำฃอสทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด
เคล็ดลับความสำเร็จอีกอย่างหนึ่งของร้านนี้ก็คือ ความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบการกำหนดราคา กับปริมาณอาหารให้อยู่ในเกณท์ที่สมเหตุสมผล ซึ่งทางร้านมองว่า ราคาขายไม่แพง แต่ปริมาณของอาหารที่ทำออกมาแต่ละจาน อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ลูกค้าก็สามารถสั่งเมนูอื่นมาทานได้อีก ซึ่งก็เป็นแนวความคิดที่ใช้ได้ผลเป็นอย่างดีและที่สำคัญหน้าตาอาหารนั้นออกมาดูดี ก็ยิ่งทำให้อาหารดูน่าสั่งมาทานมากยิ่งขึ้น หากผ่านมาแถวย่าน Sutherland Shire ก็มาลองทานกันได้ ร้านอยู่ตรงข้ามห้าง Westfield สาขามิรานด้า จอดรถสะดวกสบาย ร้านเปิดทุกวันในช่วงเย็นและเปิด เที่ยง ในวันเสาร์และวันอาทิตย์