ร้านอาหารแต่งแบบไทย ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านแบบไทยเดิมที่หาตัวจับยาก ในสมัยที่เทรนด์ร้านไทยในปัจจุบันจะออกแนวโมเดิร์น และแนววินเทจ ปูนเปลือยกันหมดแล้ว
หากเปรียบเทียบบรรจุภัณฑ์ของขนมรูปลักษณ์สวยงาม ที่สามารถดึงดูดความสนใจของเด็กๆ ได้ทุกครั้งแล้วล่ะก็ ร้านไผ่ทอง ร้านนี้ก็เป็นเช่นเดียวกัน แต่ต่างกันตรงความโดดเด่นของการออกแบบร้านที่เป็นตัวดึงดูดความสนใจคนในย่าน Woonona และเมืองใกล้เคียง ให้มาลองอาหารไทยกันจนแทบไม่มีโต๊ะว่างในแต่ละวัน

ด้วยสไตล์การตกแต่งร้านแบบไทยเดิมที่หาตัวจับยาก ในสมัยที่เทรนด์ร้านไทยในปัจจุบันจะออกแนวโมเดิร์น และแนววินเทจ ปูนเปลือยกันหมดแล้ว แต่คุณโป้ง ธนา เผือกผ่อง และ คุณสุวิมล เลาสุวรรณ หรือเจเจ เจ้าของร้านกลับคิดต่าง และต้องการนำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ชาวออสซี่ได้รู้จัก โดยสื่อเรื่องราวด้วยภาพวาดวรรณคดีรามเกียรติ์และวัฒนธรรมสี่ภาค

เฟอร์นิเจอร์และของแต่งร้านเกือบทุกชิ้นสั่งตรงมาจากเมืองไทยเพื่อให้ตรงตามคอนเซ็ปที่วางไว้ บวกกับความใส่ใจทุกรายละเอียดระหว่างที่ทำร้าน ถึงขั้นอดหลับอดนอนมาช่วยช่างแต่งร้านยันเช้าก็ทำมาแล้ว จนได้งานเนี้ยบๆ ออกมา นอกจากนี้ยังมีการผสมผสานหลักฮวงจุ้ยเล็กๆ เข้าไปในส่วนของการออกแบบร้านได้อย่างกลมกลืน
กว่าจะมาเป็นไผ่ทองเช่นทุกวันนี้คุณเจเจ เล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของร้านว่า “เมื่อก่อนพี่ก็มาเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัย Wollongong แล้วก็มาทำงานที่ร้านนี้ พอดีเจ้าของร้านเก่ามีปัญหาเรื่องการเงินจึงขายร้านให้ ก็เลยคิดว่าเราน่าจะทำกำไรกับธุรกิจนี้ได้ เพราะร้านนี้มีลูกค้าประจำในย่านนี้อยู่มากพอสมควร จึงเล็งเห็นศักยภาพของร้านที่สามารถจะพัฒนาให้เติบโตไปได้อีก

หลังจากที่ซื้อร้านมา ก็มีการปรับเปลี่ยนคอนเซ็ปร้านและใช้หลักการตลาดที่เรียนมาเพื่อเพิ่มยอดขาย และสร้างความประทับใจให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น “Serve with Thai Smile คือคอนเซ็ปของร้านที่คิดกันเองค่ะ เพราะพี่มองว่า การบริการคือหัวใจของร้านนี้เลย เมื่อลูกค้าเข้าร้านมาด้วยความตื่นเต้นกับบรรยากาศภายในร้านแล้ว
สิ่งต่อไปที่จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้า เพื่อให้เขากลับมาอีกก็คือรสชาติของอาหารและการบริการนั่นเอง การเสิร์ฟกับการเซอร์วิสนั้นแตกต่างกันนะ การเสิร์ฟใครๆ ก็ทำได้ แต่การเซอร์วิสนั้นต้องพูดคุยกับลูกค้า สอบถามถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อนำคำติชมมาปรับปรุงร้านให้ดียิ่งขึ้น”

การคัดเลือกและการเทรนพนักงานของร้านนี้ คุณโป้งจะเน้นมากก็คือ “จะสอนให้เขารู้จักกับวัฒนธรรมไทยก่อนว่าเรามีการไหว้ทักทายและกิริยาที่อ่อนน้อมยังไง เพราะบางคนก็เป็นต่างชาติที่มีวัฒนธรรมที่ต่างกันออกไป แล้วก็พยายามสอนให้เขายิ้มต้อนรับแขก ให้รู้จักคำว่า “Service Mind คือให้รักกับงานบริการที่เขาทำ
ตัวอย่างที่จะให้เห็นภาพก็คือให้เขาลองนึกว่าเวลาเขาไปทานอาหารในร้านอาหาร เขาอยากได้บริการที่ดีอย่างไร ก็ให้บริการลูกค้าอย่างนั้น ก็จะมีบ้างบางคนที่ทำไม่ได้ เราก็จะบอกให้พยายามปรับปรุงหรือแย่สุดก็ให้ออก เราก็จะบอกเขาตรงๆ เลยว่าเขาไม่เหมาะกับงานสไตล์ร้านแบบเรา เพราะเรามีแสตนดาร์ดทางด้านบริการที่สูง เราก็ต้องคัดเลือกคนทำงานอย่างเข้มงวดเช่นเดียวกัน”
“ความสำเร็จที่ได้มานี้ ล้วนมาจากความใส่ใจและความตั้งใจแทบทั้งสิ้นเลยนะ ทุกวันนี้พี่ไม่เคยคิดว่าร้านพี่ดีที่สุด แต่พี่คิดว่าเราทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทุกวัน “

เมนูของทางร้านส่วนใหญ่ เป็นสูตรดั้งเดิมจากเจ้าของเก่า ที่เข้าใจรสชาติที่ลูกค้าย่านนี้ต้องการเป็นอย่างดี โดยคุณโป้งเองก็ได้เพิ่มอาหารบางอย่างเข้ามา และมีการปรับเปลี่ยนกันไปเรื่อยๆ ตามความนิยมของลูกค้า อย่างเช่น เมนูเรียกน้ำย่อย จานแรกที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาได้ไม่นาน แต่ได้รับความนิยมจนติดลมบนไปแล้วนั่นก็คือ ขนมจีบกุ้ง

ที่ร้านนี้เขาทำเองทุกขั้นตอน จนได้ขนมจีบเนื้อนุ่มจากเนื้อไก่บดกับเนื้อกุ้งหั่นเคี้ยวหนึบๆ รสชาติดีต่างจากขนมจีบแช่แข็งอย่างไม่ต้องสงสัย จานต่อมา กุ้งห่มผ้า จานนี้เป็นเมนูดั้งเดิมของทางร้านที่ยังได้รับความนิยมเช่นเคย เพราะความอร่อยลงตัวของไส้ที่ห่อกับกุ้งและความกรอบของแผ่นปอเปี๊ยะที่ทอดออกมาแล้วน่าทานอย่าบอกใคร

กุ้งนางฟ้า เมนูแนะนำสำหรับครอบครัวที่มีเด็กๆ มาทานด้วย ไม่ว่าจะสั่งมาทานเล่นหรือทานกับข้าวก็ดีไม่แพ้กัน ทางร้านใช้กุ้งตัวใหญ่มาชุบแป้งทอด แล้ววางบนบะหมี่ที่ทอดไว้เหลืองกรอบ ราดด้วยน้ำจิ้มไก่ผสมน้ำจิ้มบ๊วย สำหรับเมนูจำพวกแกงของร้านนี้ถือเป็นตัวชูโรงอีกอย่างหนึ่งที่มาแล้วต้องสั่ง

โดยเฉพาะอากาศเย็นๆ อย่างนี้ทางร้านเขาแนะนำ แกงเขียวหวานหอยเชลล์มะพร้าวอ่อน เมนูขายดีอีกจานที่มีดีตรง การผสมเครื่องแกงให้ได้รสพอดิบพอดี แล้วใส่ลูกเล่นด้วยหอยเชลล์และเนื้อมะพร้าวอ่อน เพื่อให้ลูกค้าได้ลองของแปลกใหม่กันดูบ้าง

หากต้องการเพิ่มดีกรีความเผ็ดร้อนต้องสั่ง นกผัดเผ็ด มาลองทานดู นกที่ใช้เป็นนกกระทาไซส์ใหญ่ นำมาเลาะกระดูกออกเพื่อให้ง่ายเวลาทาน ก่อนผัดต้องนำไปทอดให้กรอบก่อน แล้วจึงนำมาผัดกับเครื่องแกงหอมๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ลงตัวไม่แพ้จานอื่นๆ จานสุดท้ายเป็นเมนูจานเด็ดที่คนชอบทานปลาไม่ควรพลาด ปลาเจี๋ยน ของร้านนี้จะออกแนวฟิวชั่นนิดๆ โดยเพิ่มส่วนผสมที่เป็นไก่สับและผักต่างๆ ลงไป เพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้น่าทานมากยิ่งขึ้น

ร้านอาหารแต่งแบบไทย ตลอดระยะเวลากว่า 16 ปีที่ คุณโป้ง และคุณเจเจทำร้านไผ่ทองมา คุณเจเจมองว่า “ความสำเร็จที่ได้มานี้ ล้วนมาจากความใส่ใจและความตั้งใจแทบทั้งสิ้นเลยนะ ทุกวันนี้พี่ไม่เคยคิดว่าร้านพี่ดีที่สุด แต่พี่คิดว่าเราทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทุกวัน และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ นอกจากจะดูแลลูกค้าเหมือนคนในครอบครัวแล้ว พนักงานในร้านทุกคน พี่ก็คิดว่าพวกเขาก็คือสมาชิกในครอบครัวเช่นเดียวกัน ฉะนั้นต้องดูแลพวกเขาให้ดี จะอยู่กับเรานานๆ และทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข”

Pai Tong Thai Restaurant
5/409-411 Princes Hwy, Woonona NSW 2517
(02) 4284 0321
www.pai-tongthai.com.au