ร้านอาหารไทยแต่ฝรั่งผัด พวกเราต้องการนำเสนอความรักของชาวออสเตรเลียที่มีต่ออาหารไทย และยังคงรักษามาตรฐานของอาหารไทยไว้ได้อย่างครบถ้วน และร้าน Lalor Thai ก็เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทำให้คนไทยอย่างเราๆ มองเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

เกริ่นเรื่องในเล่มนี้ว่าฝรั่งรักษ์ไทย Vr Dine In ฉบับนี้จึงอยากพาท่านผู้อ่านมาชิมอาหารไทยรสเด็ด ที่มีเจ้าของร้านเป็นชาวออสเตรเลียกัน ถึงแม้ Lalor Park จะเป็นเพียงเมืองเล็กๆ และทำเลที่ตั้งของร้านก็ไม่ได้อยู่ในแหล่งธุรกิจแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่ร้านเปิดมานาน และยังคงรักษามาตรฐานของรสชาติและการบริการไว้ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้คนแถวนี้รู้จักร้าน Lalor Thai กันเป็นอย่างดี หากใครอยากมาทานมื้อค่ำ
โดยเฉพาะคืนวันพฤหัสถึงคืนวันเสาร์จะต้องจองล่วงหน้า ไม่งั้นหมดสิทธิ์ เพราะมีทั้งลูกค้าหน้าเก่าหน้าใหม่แวะเวียนมาทานกันจนแน่นร้านแทบทุกคืน

คุณ Lachlan Mckay เจ้าของร้าน Lalor Thai เล่าถึงความประทับใจในอาหารไทยว่า “ผมเคยไปเรียนมวยไทยที่เมืองไทยเมื่อประมาณ 13 ปีที่แล้ว แต่ก่อนไป เพื่อนสนิทที่จะไปด้วยกัน ชวนผมไปทานอาหารไทย เพราะกลัวว่าเมื่อผมไปเมืองไทยแล้วจะทานอาหารไทยไม่ได้ ซึ่งครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้รู้จักและเริ่มชอบอาหารไทย พอได้ไปเรียนมวยและได้คลุกคลีอยู่กับคนไทยก็ยิ่งทำให้เกิดความรัก ความผูกพันธ์กับความเป็นไทยมากขึ้น
พอกลับมาก็เริ่มทานอาหารไทยตามร้านต่างๆ รวมทั้งร้าน Lalor Thai ที่เมื่อก่อนเจ้าของเป็นคนไทย จนวันนึงเจ้าของต้องการขายหุ้นร้าน จึงเกิดความสนใจที่จะทำตรงนี้ ก็เลยซื้อหุ้นครึ่งหนึ่ง แล้วก็เริ่มเข้าไปทำที่ร้าน ตั้งแต่งานในครัวทุกอย่าง เรียนรู้การเลือกวัตถุดิบ เครื่องปรุง ตลอดจนวิธีการปรุง จากเจ้าของ จนสามารถทำอาหารที่มีในเมนูได้ทุกอย่าง ทำได้ประมาณหนึ่งปี เจ้าของเก่าก็ขายหุ้นทั้งหมดให้ โดยที่ยังเก็บพนักงานเดิมไว้บางส่วน แล้วหามาเพิ่มเติมบ้าง ทำการปรับปรุงร้านให้ดูสะอาด ลงโฆษณาให้คนรู้จักมากขึ้น จนทุกอย่างเริ่มดีขึ้นตามลำดับ”

ด้วยพื้นฐานของคุณ Lachlan ที่ทำงานด้านการก่อสร้างมา จึงทำให้การตกแต่งปรับปรุงร้านทำได้อย่างใจคิด ล่าสุดที่ร้านทำการปรับปรุงไปเมื่อช่วงคริสต์มาสที่ผ่านมา ด้วยคอนเซ็ปที่ต้องการให้ร้านดูโมเดิร์นขึ้น แต่ยังคงความเรีบยง่ายอยู่ สีที่ใช้ส่วนหนึ่งจึงมาจากความชอบส่วนตัวของคุณ Lachlan เองผสมสารกับความเหมาะสมที่ทำให้ร้านดูกว้างและสบายตามากยิ่งขึ้น

“เหตุผลที่ผมเลือกทำร้านอาหารไทยนอกจากความชอบส่วนตัวแล้ว ผมมองเห็นโอกาสของร้านนี้ว่าอาหารอร่อยแต่ยังขาดการจัดการที่ดี ซึ่งผมคิดว่าผมสามารถปรับปรุงมันได้ ตราบใดที่ผมยังรักษาคุณภาพของอาหารไว้เหมือนเดิม เพราะผมอยู่แถวนี้มาตั้งแต่เด็ก ผมเข้าใจความต้องการของคนแถวนี้ดี ว่าเขาชอบทานอะไร รสชาติแบบไหน ซึ่งบางครั้งคนไทยอาจไม่เข้าใจในส่วนนี้ จึงทำให้การสื่อสารระหว่างลูกค้า ผม และเชฟของผมที่เป็นคนไทยค่อนข้างลงตัว ซึ่งลูกค้ากว่า 95 เปอรเซ็นจะเป็นชาวออสเตรเลียที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นจริงๆ ส่วนที่เหลือจะเป็นจีนกับอินเดียบ้าง”

สำหรับเมนูแนะนำในวันนี้ ทางร้านขอแนะนำเมนูขายดี และเป็นจานโปรดของลูกค้าย่านนี้ เริ่มจากของทานเล่น ง่ายๆ อย่าง ถุงเงินถุงทอง (Money Bag) ที่เจ้าของร้านบอกว่าอาจดูธรรมดาแต่อร่อยไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะด้วยส่วนผสมที่มีหลายอย่าง และคัดสรรมาอย่างดี จนใครๆ ที่มาทานก็มักพูดเสมอว่าถุงเงินถุงทองของร้านนี้อร่อยถูกปากไม่เหมือนใคร
“ ผมคิดว่าผมโชคดีที่ได้พนักงานคนไทยที่มีความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ผมดูแลพวกเขาดี เขาก็ตอบแทนผมด้วยการทำงานทีเต็มไปด้วยความใส่ใจ ขยันและอดทน ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมา ผมก็ไม่เคยมีปัญหากับพนักงานเลย “ผมก็เหมือนคนบังคับเรือให้แล่นไปถูกทาง และพนักงานของผมก็ช่วยกันทำงานต่างๆ ในเรือ จนทำให้เรือลำนี้แล่นไปถึงจุดหมาย ”

ส่วนของทานเล่นอีกจานเป็น กุ้งชอบแป้งทอด (Prawn Cutlet) สไตล์ฝรั่งที่ไม่ได้เป็นเมนูประจำของทางร้าน เมนูนี้ทำเป็นสเปเชี่ยลทีไร ขายดีทุกที แต่ค่อนข้างทำยากเพราะต้องทำกันสดๆ หากใครสนใจอยากทานเมนูอร่อยจานนี้ ทางร้านเขาก็ทำให้แต่อาจต้องรอนานหน่อย เคล็ดลับความอร่อยแสนกลมกล่อมของเมนูจานนี้อยู่ที่การเลือกกุ้ง Green Prawn สดๆ ตัวใหญ่ นำมาผสมกับแป้งสาลี แป้งข้าวโพดและไข่ขาว แล้วนำไปทอดทันทีแบบไม่มีทำเก็บไว้ก่อน ที่แน่ๆ คุณ Lachlan บอกว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่จัดการเด็กฝรั่งให้เลิกซนได้เป็นอย่างดี

เมนูต่อมาเป็น หมี่กรอบ (Mee Krob) ที่ใสกุ้งตัวโตมาเต็มพิกัดแบบไม่กลัวขาดทุน รสชาติของน้ำซอสที่แสนกลมกล่อมลงตัว ออกเปรี้ยวหวานตามแบบฉบับของหมี่กรอบไทยแท้ ทำให้นึกถึงความใส่ใจของเจ้าของร้านที่ยังต้องการให้อาหารไทยที่ร้านยังคงความเป็นไทยอยู่อย่างครบถ้วน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไก่นรก (Hell Chicken) เมนูรสจัดจ้านที่ เผ็ดร้อนสมชื่อเมนูนี้จริงๆ ขั้นตอนการทำก็จะคล้ายกับไก่ย่างแบบพื้นบ้านที่ต้องนำไปหมักกับเครื่องเทศก่อนแล้วค่อยนำมาย่าง แต่ที่เด็ดอยู่ตรงพริกราดที่ เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านที่แสนลงตัว แต่สำหรับใครที่ไม่ทานเผ็ดต้องบอกพนักงานเสิร์ฟให้แยกพริกราดออกต่างหากเพราะรสอาจจะเผ็ดเกินไป

และเมนูกลิ่นหอมชวนเจริญอาหารจานสุดท้ายเป็น ออเทนติกแซลมอน (Authentic Salmon) ที่มีทั้งแซลมอนชิ้นใหญ่ กุ้ง เนื้อปูกับผักสีสวยชวนยั่วน้ำลายแบบที่ระบุไว้ในเมนูไม่มีผิด

ร้านอาหารไทยแต่ฝรั่งผัด นอกจากอาหารที่มีบริการลูกค้าแล้ว ทางร้านยังมีกาแฟกลิ่นหอม รสชาติชาติเข้มข้นไว้คอยบริการลูกค้าที่ส่วนมากจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมไม่ไกลจากร้านมานั่งดื่ม นั่งคุยงานพร้อมรับประทานอาหารเที่ยงไปในตัว

สิ่งสำคัญของการบริหารร้านที่คุณ Lachlan บอกว่าเป็นหัวใจหลักก็คือ ความสะอาด การต้อนรับลูกค้าด้วยอัธยาศัยที่ดี การบริการที่เป็นกันเอง ไม่ต้องถึงขั้นที่เป็นทางการมากนัก เพราะลูกค้าก็เข้าใจว่าร้านนี้ไม่ใช่ Fine Dining Restaurant และการเลือกวัตถุดิบที่ได้คุณภาพ ซึ่งความสำเร็จที่ผมได้มาตรงนี้

ผมคิดว่าผมโชคดีที่ได้พนักงานคนไทยที่มีความซื่อสัตย์ ไว้ใจได้ ผมดูแลพวกเขาดี เขาก็ตอบแทนผมด้วยการทำงานทีเต็มไปด้วยความใส่ใจ ขยันและอดทน ตลอดเวลาที่ทำงานด้วยกันมา ผมก็ไม่เคยมีปัญหากับพนักงานเลย “ผมก็เหมือนคนบังคับเรือให้แล่นไปถูกทาง และพนักงานของผมก็ช่วยกันทำงานต่างๆ ในเรือ จนทำให้เรือลำนี้แล่นไปถึงจุดหมาย

ส่วนผสม
เส้นหมี่ขาว 300 กรัม
เต้าหู้เหลือง 3 แผ่น
กุ้งสด 5 ตัว
เม็ดมะม่วงหินมพานต์ ¼ ถ้วยตวง
ลูกเกด ¼ ถ้วยตวง
หอมแดงสับ 1/4 ถ้วยตวง
กุยช่าย 3 ต้น
ส่วนผสมน้ำซอสผัดไทย
น้ำมะขามเปียก 3/4 ถ้วยตวง
น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วยตวง
น้ำตาลปิ๊บ 1 1/4 ถ้วยตวง
น้ำปลา 1/2 ถ้วยตวง

วิธีทำน้ำซอสผัดไทย
- เคี่ยวน้ำตาลปิ๊บ น้ำมะขามเปียก น้ำปลา และน้ำส้มสายชู ให้เข้ากันโดยใส่หม้อตั้งไฟปานกลาง คนๆ จนน้ำซอสมีลักษณะข้นเหนียว
- ชิมรสให้ออก เปรี้ยวเค็ม หวาน ปิดไฟ พักไว้ให้เย็น
วิธีปรุง
- หลังจากที่ได้น้ำผัดไทยมาแล้ว ตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำผัดไทยลงไป รอให้เดือดใส่กุ้ง หอมเจียว เต้าหู้ แคปซิคัม ลูกเกด และเม็ดมะม่วงหินมพานต์ แล้วรอให้เดือด
- ใส่หมี่กรอบลงไป คลุกให้เข้ากันจนเริ่มเหนียว เบาไฟ ใส่ใบกุยช่ายคลุกให้เข้ากันอีกที
- ตักใส่จาน ก่อนแต่งจานด้วยกุยช่ายที่เหลือและพริกชี้ฟ้า