วิธีเปิดร้านนวดแผนไทย ให้ประสบความสำเร็จ คุณดาว เจ้าของร้าน Bua Traditional Thai Massage & Day Spa เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความความสำเร็จในการบริหารธุรกิจร้านนวดที่มีแนวคิดอย่างน่าสนใจ
หากแวะเวียนไปย่านฝั่งนอร์ท ระหว่างทางก่อนที่จะถึง Hornsby จะมีเมืองเล็กๆ ที่มีชื่อว่า Gordon ซ่อนตัวอยู่
หลังจากประสบการณ์ทางวงการนวดไทยเป็นเวลาหลายปี คุณดาวได้ตัดสินใจที่จะมีธุรกิจร้านนวดเป็นของตนเอง โดยคุณดาวเธอให้ความสำคัญกับทำเลของร้านอย่างมาก ระหว่างทางที่ขับรถคุณดาวได้สังเกตเห็นว่าบริเวณที่เป็นที่ตั้งของร้านนวดในปัจจุบัน ยังไม่มีร้านนวดไทยมาก่อน
“ที่ตั้งของร้านจะอยู่ระหว่าง Chatswood กับ Hornsby ถ้าเราขับรถจาก Hornsby เพื่อที่จะเข้าเมือง ก็ต้องผ่านถนนเส้นนี้” คุณดาวบอกเหตุผลที่เลือกทำเลร้านที่นี่ กอรปกับคุณดาวเห็นว่าทางร้านมีที่จอดรถสะดวกสบาย จะทำให้ลูกค้าขาจรก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้ง่ายขึ้น
“การตั้งชื่อร้านก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งนะ พี่คิดไว้ว่าร้านพี่ต้องมีชื่อเป็นพยางค์เดียว เพื่อให้ลูกค้าสามารถจดจำได้ง่ายเลยมาลงตัวที่ชื่อ บัว เพราะเป็นความหมายของชื่อจริงของพี่”
คุณดาวทำการตกแต่งร้านใหม่ทั้งหมด เพราะร้านเคยเป็นร้านซักรีดมาก่อน การตกแต่งร้านใหม่ทั้งหมดจึงค่อนข้างจะเป็นเรื่องใหญ่ อย่างไรก็ตามคุณดาวได้ความช่วยเหลือจากคนรู้จักที่เป็น Interior Designer ในการออกแบบร้าน ทำให้การตกแต่งร้านผ่านไปได้ด้วยดี งบไม่บานปลาย โดยร้านคุณดาวใช้โทนสีน้ำตาลเน้นควาเรียบง่าย และประดับตกแต่งด้วยดอกบัวซึ่งเป็นชื่อร้าน
ตอนแรกที่เปิดร้านใหม่คุณดาวและน้องสาวช่วยกันทำเพียงสองคนก่อน โดยร้านเปิดทุกวัน “เพราะว่าเราอยู่ร้านเองทุกวัน ก็จะทำให้ทราบถึงปัญหาต่างๆ ถ้าเกิดขึ้น เราก็สามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ทันท่วงที” คุณดาวขยายความถึงสาเหตุที่ร้านของเธอไม่ค่อยจะประสบปัญหายุ่งยากใดๆ นัก
“สักพักพอร้านเริ่มอยู่ตัวเราถึงค่อยจ้างพนักงานมาอยู่เพิ่มและพนักงานที่รับมาก็ต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 1 ปีเท่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่รู้จักสนิทสนมกันอยู่แล้วจึงทำให้คุยได้ง่ายกว่า หลังจากรับมาทำแล้วจึงค่อยมาปรับท่ากันให้เป็นมาตรฐานของร้าน ซึ่งข้อดีของพนักงานที่มีประสบการณ์ก็คือฝีมือการนวดที่ดีจะทำให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก”
“ “ความสำเร็จที่ได้มาส่วนหนึ่งมาจากร้านเก่าที่เคยทำ เจ้าของร้านเขาไม่ลดราคาของการบริการ แม้ว่าจะเป็นลูกค้าประจำก็ตาม ซึ่งพี่มองว่าถ้าเราลดราคา มันก็จะกลายเป็นเหมือนเราลดระดับของศาสตร์การนวดไทยไป”
ร้านคุณดาวตั้งอยู่ในทำเลที่เด่น สามารถมองเห็นร้านได้ชัด จึงไม่น่าแปลกใจที่มีลูกค้า Walk In เดินเข้ามาอยู่เรื่อยๆ เมื่อลูกค้าติดใจฝีมือ จึงกลับมาใช้บริการอีกตลอด จนกล่าวได้ว่า ตอนนี้ประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์ของลูกค้าที่ร้านนั้นเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะมาใช้บริการ Bua Package ที่เป็นนวดไทยหรือนวดน้ำมันหนึ่งชั่วโมงบวกกับนวดเท้าอีกครึ่งชั่วโมง
“ลูกค้าแถวนี้เขาไม่ใส่ใจเรื่องราคามากนะ เพราะส่วนใหญ่เป็นลูกค้าที่มีฐานะดี เขายินดีที่จะจ่าย ตัวร้านก็ต้องสะอาดและมีกลิ่นหอมตลอดเวลา และทางร้านจะคิดเสมอว่าเราให้บริการดีเหมือนลูกค้าเป็นคนในครอบครัว” หลักการนี้คุณดาวก็ใช้กับการบริหารลูกน้องด้วยเหมือนกัน คืออยู่ด้วยกันแบบครอบครัว เพียงแค่ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฏที่เขียนไว้ และถ้ามีปัญหาอะไรก็พูดคุยกัน ทำให้ธุรกิจร้านนวดของเธอไปได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้คุณดาวยังกล่าวปิดท้ายไว้ว่า “ความสำเร็จที่ได้มาส่วนหนึ่งมาจากร้านเก่าที่เคยทำ เจ้าของร้านเขาไม่ลดราคาของการบริการ แม้ว่าจะเป็นลูกค้าประจำก็ตาม ซึ่งพี่มองว่าถ้าเราลดราคา มันก็จะกลายเป็นเหมือนเราลดระดับของศาสตร์การนวดไทยไป”