Home Editor's Picks อราบิก้า กับ โรบัสต้า แตกต่างกันอย่างไร

อราบิก้า กับ โรบัสต้า แตกต่างกันอย่างไร

by ChaYen
Robusta and Arabica

หลายคนที่ชื่นชอบ การดื่มกาแฟ อาจจะเคยได้ยินคำว่า อราบิก้า (Arabica) กับ โรบัสต้า (Robusta) กันมาบ้าง ว่ามันคือชนิดของกาแฟ แต่บางคนอาจไม่รู้ว่า กาแฟที่เราดื่มกันเป็นชนิดไหนกันแน่ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟัง ถึงความแตกต่างของกาแฟทั้ง 2 ชนิดนี้ ว่ามันแตกต่างกันอย่างไร

อราบิก้า (Arabica) กับ โรบัสต้า (Robusta)

เริ่มจากโรบัสต้ากันก่อนครับ กาแฟชนิดนี้ในระเทศไทยจะปลูกมากแถบชายฝั่งทะเล แถบจังหวัดประจวบ สตูล และระนอง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศร้อนชื้น ส่วนลักษณะของโรบัสต้า เมล็ดจะมีขนาดเล็กและให้รสขมกว่าอาราบิก้ามาก จึงไม่นิยมนำมาชงแบบ เอสเปรสโซหรือชงแบบใช้เครื่อง แต่ ด้วยราคาที่แสนถูกจึงทำให้โรบัสต้านี้ นิยมนำมาทำเป็นกาแฟผงพร้อมชง (Instant Coffee) มากกว่า และถ้าเรานำมาคั่วกับเม็ดมะขามเราก็จะได้เป็นโอเลี้ยงออกมานั่นเอง เหตุที่ต้องนำมาคั่วกับเม็ดมะขามก็เพราะต้องการให้ได้รสเปรี้ยวจากเม็ดมะขามมาตัดรสขมของกาแฟชนิดนี้ ส่วนแหล่งเพาะปลูกโรบัสต้าที่สำคัญของโลกนิยมปลูกกันมากโดยเฉพาะในประเทศเวียดนาม ลาวและบราซิล

อราบิก้า (Arabica) กับ โรบัสต้า (Robusta)

สำหรับอาราบิก้าจะปลูกมากในแหล่งที่มีความชื้นสูง อย่างบนภูเขาหรือตามดอยทางภาคเหนือของบ้านเรา อาทิเช่น ดอยเต่า ดอยคำ ดอยช้าง ดอยตุง หรือบางพื้นที่ของจังหวัดสุโขทัยไปจนถึงแม่ฮ่องสอน ส่วนแหล่งปลูกกาแฟ อาราบิก้า ที่มีชื่อเสียงระดับโลกก็คือ อิโดนิเซีย จาเมกา และประเทศในทวีปแอฟริกาโดยเฉพาะประเทศเอธิโอเปียซึ่งถือเป็นแหล่งกำเนิดของกาแฟสายพันธุ์นี้เลยที่เดียว เหตุที่เม็ดกาแฟจากประเทศพวกนี้ได้รับความนิยมและมีราคาสูงกว่าที่อื่นๆ ก็เพราะว่าสภาพภูมิอากาศและภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกและยังคงความเป็นธรรมชาติอยู่มากจึงทำให้ผลผลิตที่ได้ออกมามีคุณภาพดี ส่วนรสชาตินั้นกาแฟชนิดนี้จะให้รสชาติที่ดี บางสายพันธ์ุเมื่อนำมาคั่วแล้วจะให้กลิ่นผลไม้หรือกลิ่นถั่วอัลมอนด์ ซึ่งเหมาะแก่การนำมาดื่มมากกว่าโรบัสต้า

อราบิก้า (Arabica) กับ โรบัสต้า (Robusta)

“กาแฟหลายที่มาผสมกันนั้นก็เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรสชาติใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นแทนที่จะเป็นรสชาติจากภูมิภาคเดียว ซึ่งรสชาติของทั้งอย่างนั้นเราไม่สามารถบอกได้ว่าแบบไหนอร่อยกว่ากัน มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคลมากกว่าว่า”

ChaYen

นอกจากสายพันธ์ุของ กาแฟที่เป็นแบบ อราบิก้า กับ โรบัสต้า ที่เราดื่มกันแล้ว เรายังสามารถแบ่ง กาแฟ ได้อีก 2 ชนิดก็คือ Single Origin และ Blend Single Origin ก็คือการที่เรานำเมล็ดกาแฟ จากภูมิภาคเดียวกัน มาเข้าสู่กระบวนการผลิต เป็นกาแฟ คำว่าภูมิภาคเดียวกัน หมายถึงพื้นที่เหล่านั้น ลมสามารถพัดหากันได้ นกบินถึงกันได้และอากาศถึงกันได้ในระยะสั้นๆ

Robusta and Arabica

ส่วนกาแฟแบบ Blend นั้นเป็นการผสมผสาน สายพันธุ์จากภูมิภาคต่างๆ ตั้งแต่ 2 ภูมิภาคขึ้นไป อย่างเช่น การนำเอาเมล็ดกาแฟจากประเทศ คอสตาริกา จาเมกา เอธิโอเปีย และอินโดนิเซีย มาผสมกัน ซึ่งการนำเมล็ดกาแฟ ต่างภูมิภาคกันมาผสมกันนั้น จะทำให้เกิดรสชาติใหม่ขึ้นมา ซึ่งขึ้นอยู่กับส่วนผสมของผู้ผลิต

Robusta and Arabica

ส่วนสาเหตุ ที่เรานำกาแฟหลายที่มาผสมกันนั้น ก็เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรสชาติใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น แทนที่จะเป็นรสชาติจากภูมิภาคเดียว ซึ่งรสชาติของทั้งอย่างนั้น เราไม่สามารถบอกได้ว่า แบบไหนอร่อยกว่ากัน มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของบุคคลมากกว่าว่า ชอบแบบไหน และครั้งหน้าที่คุณสั่งกาแฟ อย่าลึมถามบาริสต้านะครับว่า เขาใช้ Single Origin หรือ Blend เพื่อจะทำให้คุณทราบว่าตัวคุณเองชอบแบบไหน

Related Articles

Leave a Comment