เทคนิคถ่ายภาพวิวให้สวย ปรีชาสาครพันธรักษ์ชื่อนี้อาจไม่คุ้นหูคนไทยที่นี่มากนัก แต่ถ้าในวงการช่างภาพแล้ว คงมีไม่กี่คนที่จะไม่รู้จักเขาคนนี้ คุณปรีชาหรือพี่ปรีชาของน้องๆกลุ่มช่างภาพที่ชอบไปออกทริปตามที่ต่างคนนี้
ถือได้ว่าเป็นพี่ใหญ่ของชมรมที่ใคร ๆ จะให้ความรักและเคารพเป็นพิเศษเพราะความที่พี่ชายคนนี้เป็นคนที่มีประสบการณ์ในการถ่ายภาพมานานรู้จักสถานที่ถ่ายภาพที่นี่ เป็นอย่างดีบวกกับคาแร็กเตอร์ส่วนตัวที่เป็นมิตรกับทุกๆคนที่มีโอกาสได้พบปะพูดคุยกับพี่ปรีชา ด้วยเหตุนี้ทางทีมงาน VR Thai จึงได้เทียบเชิญพี่ปรีชามาเขียนบทความให้กับนิตยสารของเราซึ่งทางทีมงานหวังว่าความรู้และประสบการณ์ของพี่ปรีชาจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่รักการถ่ายภาพที่สามารถเรียนรู้และนำไปปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
การเตรียมตัว
เราต้องดูว่าอากาศในวันที่เราจะไปเป็นอย่างไรบ้างแต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศเพราะออสเตรเลียอาจจะมีหลายฤดูเกิดขึ้นในหนึ่งวัน ทางที่ดีควรมีร่มหรือเสื้อกันฝนติดตัวไปด้วยกระเป๋ากล้องควรมีที่คลุมกันฝนด้วย ก็จะดีอุปกรณ์ต่างๆต้องมีความพร้อมสำหรับใช้งานเช่นถ่านต้องการ์ดเค็มหรือควรมีถ่านสํารองควรตรวจเช็คค่ากล้องที่ปรับไว้ก่อนหน้านี้ว่าเหมาะกับภาพที่เราจะไปถ่ายหรือไม่โดยเฉพาะค่า White Balance กับค่า ISO รวมทั้งบรรจุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการถ่าย Landscape เท่านั้นเพื่อลดน้ำหนักรวมทั้งหากเกิดเหตุสุดวิสัยเราจะได้ไม่ต้องเสียอุปกรณ์ทั้งหมดและที่สำคัญไฟฉายน้ำดื่มควรนำติดตัวไปด้วยเพื่อไว้ในกรณีที่เดินทางไกลหรือเกิดเหตุฉุกเฉิน
อุปกรณ์ที่ใช้
แน่นอนต้องมีกล้องถ้าเป็น DSLR ก็ควรจะมีเลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพวิว ซึ่งที่นิยมใช้กันก็เป็นประเภทมุมกว้าง ส่วนหลายคนมีความเข้าใจว่าเลนส์ประเภทนี้เอาไว้เก็บองค์ประกอบภาพให้ได้กว้าง ๆ มาก ๆ แต่ที่จริงแล้วการใช้เลนส์มุมกว้างก็เพื่อให้เราเข้าใกล้ฉากหน้าได้มาก ๆ โดยที่องค์ประกอบอื่น ๆ ไม่ถูกตัดออกไปน่าจะถูกต้องกว่าขาตั้งกล้องมีความจำเป็นอย่างมากกับการถ่ายภาพแนวนี้
โดยเฉพาะการถ่ายภาพที่ต้องใช้ความเร็วต่ำ ๆ เช่นต้องการถ่ายน้ำตกหรือคลื่นให้มีความพริ้วหรือถ่ายเพื่อต้องการเก็บแสง www ยามเช้าตรู่หรือช่วงเย็น ๆ เป็นต้นขาตั้งที่ดีควรจะมีความแข็งแรงเข็งแรงทนน้ำหนักกล้องทนแรงลมรวมทั้งการสั่นสะเทือนของชัตเตอร์ด้วยสายกดชัตเตอร์หรือรีโหมดเพื่อใช้ลดการสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นกหากกาดด้วยนิ้วโดยตรงฟิลเตอร์ที่ใช้กันทั่วไปก็มี CPL หรือ Circular Polarizing Filter เพื่อใช้ใน LCD CA การคัดเงาสะท้อน, ฟิลเตอร์ ND หรือ Natural Density มีอยู่หลายประเภททั้งแบบหมุนใส่หน้าเลนส์เช่น Hoya ND4, ND หรือ ND400 พวกนี้จะเป็นแบบเต็มแผ่นใช้ลดแสงที่ผ่านเข้าหน้าเลนส์เพื่อให้เราสามารถช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำ ๆ เช่น ND ช่วยลดแสงได้ 3 stop, ND400 ลดได้ 9 stop เป็นต้น
การเลือกสถาณที่
ไม่มีหลักตายตัวแต่ละสถานที่มีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไปทุกสถานที่มีความสวยงามที่แอบแฝงอยู่ให้พวกเราค้นหาสถานที่บางแห่งอาจจะดูแล้วไม่มีอะไรน่าสนใจไม่มีความสวยงามนักถ่ายภาพวิวที่จะใช้วิธีติดหรือปิงเอาความไม่สวยงามนั้นออกแล้วนำเสนอเฉพาะส่วนที่สวยงามก็จะได้ภาพที่สวยงามน่าสนใจซึ่งมีข้อแนะนำในการถ่ายภาพนอกสถานที่ดังนี้
1. บอกคนที่บ้านหรือญาติพี่น้องให้รู้ถึงสถานที่ ๆ จะไปว่าอยู่แห่งหนตำบลใดถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสถานที่ ๆ ไม่ใช่ที่บอกไว้ แต่แรกก็ควรจะโทรแจ้งให้คนทางบ้านทราบถึงการเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลากลับแบบคร่าวๆให้คนทางบ้านทราบด้วยก็จะดีเพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุในที่ลับตาหรือห่างไกลผู้คนคนทางบ้านจะได้ตามถูกว่าเราอยู่ที่ใด
2. โทรศัพท์ควรจะมีถ่านเพียงพอตลอดการออกทริปและควรจะไปในที่ ๆ มีสัญญานรับส่งที่ดีเพื่อที่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะได้ติดต่อจะได้ติดต่อได้โดยไม่มีถเฉินเกิดขึ้น
3. อย่าออกทริปหรือไปถ่ายภาพตามลำพังควรมีเพื่อนร่วมทางอย่างน้อย 1 คนหรือมากกว่าได้ก็ยิ่งดี
4. อย่ายืนในพื้นที่ ๆ มีความเสี่ยงสูงอย่าอยู่ในแนวระดับที่คลื่นซัดถึงแม้แต่เวลานั้นจะลงต่ำสุดแล้วก็ตามถ้าหากเห็นพื้นดินเปียกแฉะอย่าเดาเอาว่าคงเป็นฝนที่ตกจากเมื่อคืนหรือเปียกเพราะละอองคลื่น แต่ให้เอาไว้ได้เลยว่าที่เปียกเพราะคลื่นลูกใหญ่ชัดถึงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
5. ก่อนที่จะลงมือตั้งกล้องถ่ายภาพให้ศึกษาหรือเฝ้าดูจุดที่จะตั้งกล้องรัก 15 นาทีหรือมากว่าดูว่าคลื่นมาถึงหรือไม่ทางหนีทีไล่ให้ดีดูว่ามีที่ยึดเหนี่ยวหรือพอจะหลบเพื่อให้ปลอดภัยในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
6. ทุกครั้งที่พวกเราออกถ่าย Seascape ทั้งเช้าและเย็นจะต้องมีช่วงใดช่วงหนึ่งของแต่ละทริปที่ตกอยู่ในความมืดฉะนั้นการที่จะเหยียบหรือก้าวไปเหยียบก้อนหินแต่ละก้อนต้องให้แน่ใจว่าหินก้อนนั้นมั่นคงไม่พลิกไม่ลื่นไม่มีตะไคร่น้ำจับไม่แหลมคมล่องหินสามารถล็อคข้อเท้าให้ติดได้เช่นกันฉะนั้นควรเลือกรองเท้าที่เหมาะกับสถานที่รองเท้าที่ดีต้องมีความเกาะจับพื้นที่อื่นได้ดีไม่หลุดจากเท้าได้โดยง่าย
7. เครื่องแต่งกายที่มีความสำคัญเสื้อผ้าไม่ควรอุ้มน้ำกางเกงไม่ควรเป็นยีนส์หรือกางเกงที่ยากต่อการเคลื่อนไหวเวลาว่ายน้ำเสื้อผ้าถ้าเป็นแบบกันน้ำกันฝนได้ก็จะดีถ้ามีสะท้อนแสงได้ยิ่งดีขึ้นไปอีกกระเป๋าอุปกรณ์ต้องไม่ล็อคติดตัวจนถอดหรือสถทิ้งยากจนเกินไปเมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นเราจะถูกถ่วงน้ำด้วยอุปกรณ์เหล่านี้ทางที่ดีควรวางอุปกรณ์ไว้ที่สูงและไม่ร่วงหล่นโดยง่ายถ้ามีกลุ่มอื่นถ่ายในที่เดียวกันก็ระวังถูกขโมยด้วย
“ข้อคิด: การถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกได้อย่างหนึ่งให้ได้ความสุขกับการกดตเตอร์แต่ละครั้งอย่าเคร่งครัดกับกฎเก ณ ต่างๆจนเกินไปจนทําให้เราหมดสนุกการถ่ายภาพการถ่ายภาพให้ออกมาได้ดีนั้นต้องผ่านการฝึกฝนเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับการฝึกฝนทําอาหารการขับขี่ยวดยานการเล่นกีฬา”
การจัดองค์ประกอบ
เทคนิคถ่ายภาพวิวให้สวย มุมมองและการจัดองค์ประกอบเมื่อเรามาถึงสถานที่และเลือกจุดสนใจของสิ่งที่จะนำเสนอได้แล้วเราควรวางจุดสนใจนในตำแหน่งจุดตัด 9 ช่องหรือ Rule of arding ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดองค์ประกอบให้มีความน่าสนใจมากกว่าที่จะวางจุดสนใจไว้ตรงกึ่งกลางภาพ
เมื่อได้ตำแหน่งในการวางจุดสนใจแล้ว เราควรจะมองหาฉากหน้ามาเป็นองค์ประกอบถัดไป ภาพวิวที่ดีควรจะมีพร้อมทั้งฉากหน้าและหลังฉากหน้ามีเพื่อบ่งบอกความใกล้ไกลทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น ไม่เรียบแบนฉากหน้าที่ใช้อาจจะเป็นก้อนหินที่มีสีสันรูปทรงสวยงาม หรืออาจจะเป็นดอกไม้พุ่มไม้กิ่งไม้สิ่งก่อสร้าง ตำแหน่งการวางฉากหน้าควรจะอยู่ในตำแหน่งที่ถ่วงดุลย์กับจุดสนใจจะได้ไม่ทำให้ภาพดูหนักไปด้านใดด้านหนึ่ง บางครั้งอาจนำฉากหน้ามาทำเป็นกรอบรูปธรรมชาติให้กับรูปถ่ายเช่นกิ่งก้านของต้นไม้ที่ปกคลุมอยู่ด้านบนหรืออาจจะใช้การถ่ายผ่านต้นไม้ 2 ต้นให้แต่ละต้นอยู่ชิดกับขอบของภาพหรือการถ่ายผ่านเป็นต้นส่วนฉากหลังที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน
การเลือกจากซุ้มประตูเป็หลังนั้นควรเลือกที่ไม่รกจนบดบังจุดสนใจของเราถ้าพูดถึงฉากหลังของก 22 Cleans Access ภาพวิวหลัก ๆ ก็มีท้องฟ้าป่าไม้ภูเขาเป็นต้นท้องฟ้าไม่ควรเป็นฟ้าที่โล่ง ๆ มีครามควรจะเป็นส่วนประกอบเมฆหรือท้องฟ้ายาม tots เช้าหรือยามเย็นจะมีสีสันสวยงามกว่าตอนกลางวันการถ่ายวิวให้ออกมาระนาบที่จะได้ท้องฟ้าจะมีสีสันที่สวยงามจึงจะทำให้ภาพเด่นสะดุดตาเป็น Fine Art Landscape
ส่วนใหญ่จะเลือกถ่ายตอนที่แสงอยู่ในถ้าเป็นการถ่ายหลังตะวันลับฟ้าเพื่อเก็บแสงสีของตึกรามบ้านช่องควรเลือกเวลาที่เรียกว่า Golden Hour หรือบางท่านอาจเรียกเวลานี้ว่า Blue Hour จะเป็นเวลาที่ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าเข้มไม่ดำสนิทภาพจะดูน่าสนใจกว่าท้องฟ้าที่มืดมิดเส้นขอบฟ้าจะต้องได้แนวขนานกับขอบภาพไม่ลาดเอียงจะทำคนดูให้รู้สึกขัด ๆ ผิดลักษณะของธรรมชาติ
โดยเส้นขอบฟ้าควรจะอยู่ในตำแหน่ง 1 ใน 3 ของภาพอาจจะเป็นด้านบนหรือด้านล่างขึ้นอยู่กับว่าท้องฟ้ามีความน่าสนใจมากน้อยเพียงใดเช่นถ้าท้องฟ้าโล่ง ๆ ก็ให้จัดเส้นขอบฟ้าอยู่ในส่วนบนของภาพแล้วเพิ่มในส่วนที่เป็นฉากหน้าหลานและไม่ควรมีองค์ประกอบมากมายจนทำให้ดึงดูดความสนใจซึ่งกันและกัน ทั้งยังทำให้ภาพดูรกไม่น่าสนใจและอาจจะมีการนำองค์ประกอบอื่น ๆ มาเสริมเพื่อให้ภาพดูเด่นขึ้นเช่นการนำเส้นสายที่มีในธรรมชาติหรือแนวรั้วมาเป็นเส้นนำสายตาไปสู่จุดสนใจของภาพเส้นสายตาต้องไม่พุ่งออกไปตรงขอบภาพเพราะฉะนำสายตาคนดูภาพให้ออกนอกเฟรมทำให้ภาพด้อยคุณภาพลงไป