เที่ยวเกียวโต ไหว้พระสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสวยงามสะอาดตา มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างเด่นชัด ผู้คนเป็นมิตรและมีมารยาทมาก อาหารการกินที่อร่อยและหลากหลาย
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีความสวยงามสะอาดตา มีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองอย่างเด่นชัด ผู้คนเป็นมิตรและมีมารยาทมาก อาหารการกินที่อร่อยและหลากหลาย รวมทั้งการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ก็แสนที่จะสะดวกสะบาย ปลอดภัย จึงทำให้ประเทศนี้กลายเป็นประเทศในฝันของใครหลายคนที่หวังว่า วันนึงจะได้ไปเยือนสักครั้งซึ่งทีมงาน VR Thai ก็เป็นหนึ่งนั้นที่ได้ไปเยือนและก็ไม่พลาดที่จะเก็บบรรยากาศสวยๆ มาฝากกัน

การเดินทางในทริปนี้เป็นช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่นพอดิบพอดีแถมยังเป็นช่วงที่หิมะตกที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ถึงแม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายเพียงใด ญี่ปุ่นยังคงน่าตื่นตาตื่นใจให้ออกไปค้นหาเช่นเดิม
สำหรับข้อมูลเบื้องต้นของการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบไปกันเองนั้น คนไทยจะได้วีซ่าท่องเที่ยวไม่เกิน 15 วัน โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องขอวีซ่าแต่อย่างใด สำหรับการเดินท่องเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่นนั้น การเดินทางด้วยรถไฟถือว่าสะดวกที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการไปเที่ยวด้วยตนเอง

หากต้องการไปเที่ยวเมืองอื่นๆ นอกจากโตเกียว ควรซื้อตั๋วรถไฟ JR Pass ก่อนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่น จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยทีเดียว แต่ถ้าต้องการเที่ยวแค่ในโตเกียว ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อ JR Pass แต่อาจซื้อเป็นตั๋วรายวัน ซึ่งก็ถือว่าคุ้มเช่นกัน
วันแรกของการเดินทาง เราขอเริ่มจากเมืองหลวงแห่งนี้เป็นที่แรก โดยวันนี้เราเลือกใช้ตั๋วรถไฟใต้ดินรายวันของ บริษัท Tokyo Metro ราคา 710 เยน หาซื้อได้ตามสถานีรถไฟใต้ดินของ Tokyo Metro ทุกสถานีตั๋วใบนี้ถือว่าคุ้มสุดคุ้มและคลอบคลุมที่หมายที่เราจะเดินทางไปในวันนี้

สถานที่แรกของวันนี้เราเริ่มจากการไปนมัสการเจ้าแม่กวนอิม ที่วัดอาซากุสะวัดเก่าแก่ขึ้นชื่อคู่เมืองโตเกียว ที่คนญี่ปุ่นจะมาขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย เราเดินทางด้วยสาย Asakusa Line มาลงที่สถานีชื่อเดียวกับชื่อสายแล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาทีก็ถึงวัดอาซากุสะ ที่หน้าวัดจะมีประตูวัดที่มีชื่อว่าประตูคามีนาริมอน และโคมไฟสีแดงขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอยู่ด้านหน้า

”Tokyo ที่นี่มีอาหารให้เลือกซื้อ เลือกรับประทาน โดยเฉพาะขนมนานาชนิดที่บอกได้คำเดียวว่า ละลานตาไปหมด ขนมจากทั่วสารทิศในญี่ปุ่นถูกรวมมาไว้ที่นี่ ”
เมื่อเดินผ่านประตูเข้าไปด้านในก็จะพบกับ ร้านค้าขายของที่ระลึกตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ที่เป็นทางเดินเข้าสู่ตัววัด สำหรับขั้นตอนการไหว้พระของชาวญี่ปุ่นนั้นก่อนอื่นจะต้องชำระสิ่งสกปรกกันก่อน ซึ่งทางวัดก็จะมีบ่อน้ำและที่กระบวยตักน้ำให้ได้ล้างมือหน้าหน้ากัน จากนั้นค่อยจุดธูปแล้วปักไว้ที่กระถางธูปด้านนอก และเข้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมซึ่งอยู่ด้านใน

หลังจากไหว้พระกันเรียบร้อยแล้ว เราก็เดินทางต่อไปยังตึก Tokyo Sky Tree สิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในญี่ปุ่นและสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 2 ของโลก ตึกนี้ อยู่ไม่ไกลจากวัดอาซากุสะ ซึ่งสามารถนั่งรถไฟสายเดิมไปยังสถานี Oshiage ก็จะถึงใต้ตึกเลย
แต่ก่อนจะเดินทางไปยัง Tokyo Sky Tree เราสามารถแวะชมแม่น้ำซูมิดะและถ่ายรูปกับตึกรูปทรงประหลาดของบริษัทเบียร์อาซาฮีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Asakusa มากนัก ความน่าสนใจของ Tokyo Sky Tree

นอกจากการขึ้นไปชมวิวเมืองโตเกียวแบบ 360 องศาแล้ว ภายในตึกก็จะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และที่สำคัญ ร้านขายของที่ระลึกที่รวบรวมสินค้าสิขสิทธิ์ของการ์ตูนญี่ปุ่นไว้มากมายให้ได้เสียตังค์กันอย่างแน่นอน หลังจากเดินชมและชิมอาหารไปพอสมควร เราก็เดินทางต่อไปที่ตลาดปลาซึกิจิเพื่อรับประทานอาหารเที่ยงกันที่นั่น โดยยังคงใช้ตั๋วรถไฟใบเดิมนั่งรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานี Tsukiji

เนื่องจากอาหารญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีซีฟู้ดเป็นส่วนประกอบ จึงทำให้ตลาดปลาซึกิจิคึกคักไปด้วยผู้คนกันตั้งแต่เช้า ความพิเศษของตลาดปลาแห่งนี้อยู่ตรงอาหารทะเลสดๆ และผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีขายตามร้านเหมือนตลาดทั่วไปที่ให้ได้เดินชิมกันไปเรื่อยแบบ Street Food และร้านอาหารที่อยู่ตามซอกซอยในบริเวณตลาด

บางร้านมีดรีกรีความอร่อยระดับประเทศกันเลยทีเดียว อย่างเช่น ร้านซูชิได ที่ได้รับคำบอกเล่ามาว่า ถ้ามาแล้วต้องมาลองให้ได้แต่เมื่อมาถึงเห็นคนยืนรอคิวกันเต็มหน้าร้านยาวไปถึงถนนด้านนอก จึงทำให้เราต้องเปลี่ยนแผนไปทานร้านข้างๆ เพื่อให้ทันกับแผนการเดินทางที่ได้เตรียมไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใดเพราะวัตถุดิบที่สดใหม่และเทคนิคการทำซูชิของคุณลุงเชฟนั้นแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการทำเป็นอย่างมาก

หลังจากได้ลิ้มลองซูชิสมความตั้งใจแล้ว เราก็เดินทางต่อไปที่สถานีรถไฟใต้ดิน Shibuya ซึ่งเป็นแหล่งชอปปิ้งเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์ที่มีชื่อเสียงของเมืองโตเกียว เพราะย่านนี้มีสินค้าให้เลือกเยอะและราคาค่อนข้างถูกกว่าที่อื่นๆ นอกจากนี้ Shibuya ยังถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงถึงแหล่งธุรกิจอันทันสมัยของญี่ปุ่น

ผู้คนโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปกันในช่วงที่มีการปล่อยสัญญาณไฟให้ผู้คนนับพัน ซึ่งส่วนมากเป็นพนักงานออฟฟิศเดินข้ามถนนที่มีจุดตัดหลายสายพร้อมกันและโดยมีแบล็คกราวน์ที่เป็นตึกสูงและจอทีวีขนาดยักษ์ที่ฉายโฆษณาและตัวอย่างภาพยนต์ในระหว่างรอสัญญาณไฟ

หากมีเวลาและยังอยากเดินเที่ยวต่อก็ต้องไปที่สถานีรถไฟ Tokyo เป็นที่สุดท้าย เพราะที่นี่มีอาหารให้เลือกซื้อ เลือกรับประทาน โดยเฉพาะขนมนานาชนิดที่บอกได้คำเดียวว่าละลานตาไปหมด ขนมจากทั่วสารทิศในญี่ปุ่นถูกรวมมาไว้ที่นี่
หลังจากเดิน เที่ยวเกียวโต จนหมดวันแล้ว เราก็เดินทางกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวสำหรับการเดินทางออกนอกเมืองโตเกียวในวันรุ่งขึ้น ร้านค้าภายใตตึก Tokyo Sky Tree ก็จะถึงใต้ตึกเลย แต่ก่อนจะเดินทางไปยัง Tokyo Sky Tree เราสามารถแวะชมแม่น้ำซูมิดะและถ่ายรูปกับตึกรูปทรงประหลาดของบริษัทเบียร์อาซาฮีซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานี Asakusa มาก