เที่ยวเมืองมรดกโลก วันแห่งการรอคอย สำหรับสถานที่ที่เป็นสุดยอดไฮไลท์ของการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นในครั้งนี้เลย เพราะทั้ง Takayama & Shirakawako สองเมืองนี้ เป็นเมืองที่ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง หากมาเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้ว

การเดินทางสู่ทาคายามะนั้น ต้องใช้เวลามากพอสมควร เนื่องจากเป็นเมืองที่รายล้อมไปด้วยหุบเขา หากเดินทางมาจากโตเกียว สามารถใช้รถไฟชินคันเซ็นมาลงที่สถานีนาโกย่า ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เมื่อมาถึงสถานีนาโกย่าแล้ว จะต้องเดินทางต่อด้วยรถไฟอีก 2 ชั่วโมง ซึ่งเรายังคงใช้ตั๋ว JR Pass ได้อีกเช่นเคย

ตลอดสองข้างทางสู่ทาคายามะ จะเต็มไปด้วยป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีแม่น้ำลำธารที่ใสสะอาดและหมู่บ้านของคนท้องถิ่นที่ยังคงเป็นบ้านทรงแบบโบราณ ดูแล้วสบายตายิ่งนัก จนทำให้ช่วงเวลา 2 ชั่วโมงนี้หมดลงอย่างรวดเร็ว และแล้วเราก็มาถึงสถานีทาคายามะ ตามตารางรถไฟแบบเป๊ะ สมกับคำล่ำลือว่ารถไฟประเทศนี้ตรงเวลาสุดๆ

ความน่าสนใจของเมืองทาคายามะนั้น อยู่ตรงวิธีชีวิตความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นที่เขายังรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีแบบเดิมไว้ ถึงแม้ว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากเท่าไหร่ก็ตาม ตัวเมืองก็ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเก่าไว้อย่างครบถ้วน อย่างเช่น บ้านโบราณในย่านเมืองเก่าที่ใครมาก็ต้องมาถ่ายรูปเก็บบรรยากาศไว้ทั้งสิ้น

โดยเฉพาะในช่วงที่ทีมงานมานี้เป็นช่วงที่มีหิมะตกหนัก จึงทำให้เมืองนี้สวยงามเป็นทวีคูณ จุดเด่นของการมาเที่ยวทาคายามะอีกอย่างนั่นก็คือการได้มาสักการะศาลเจ้าและวัดเก่าแก่ของที่นี่ รวมทั้งเดินชม สะพานแดงนะคะบาชิ อันมีชื่อเสียง และในตอนเช้าก็ต้องมาเดินเล่น ซื้อของที่เป็นพืชผลทางการเกษตรแบบท้องถิ่น ที่ตลาดเช้าข้างแม่น้ำมิยากาว่า

สำหรับผู้ที่ชอบทานเนื้อ ต้องห้ามพลาดเนื้อฮิดะ อันเลื่องชื่อของเมืองนี้เป็นอันขาด ถึงแม้ราคาค่อนข้างสูงแต่รับรองว่าคุณภาพของเนื้อที่แสนอร่อย นุ่มละมุ่นลิ้นนี้อาจทำให้ลืมเรื่องราคาไปเลย ถ้าพูดถึงของฝากของเมืองนี้ ก็ต้องเป็น ตุ๊กตาซารุโบโบะ ที่มีให้เลือกหลายขนาดหลายแบบ นอกจากจะน่ารักและมีหลายขนาดแล้วยังถือเป็นเครื่องรางนำโชคด้วย

”หมู่บ้าน โอกิมาจิ (Ogimachi Village) มีอายุกว่า 250 ปี ซึ่งยูเนสโก้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลกในปี 1995 เอกลักษณ์ของหมู่บ้านนี้คือ บ้านทรงกัสโชสึคุริ เป็นหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมเก่าแก่ของญี่ปุ่น ออกแบบพิเศษด้วยภูมิปัญญาของชาวบ้าน ”

แหล่งท่องเที่ยวต่อไปที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองทาคายามะมากนัก นั่นก็คือหมู่บ้านมรดกโลก ชิราคาวาโกะ ที่คนญี่ปุ่นยกให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องที่สวยที่สุดของเขา สำหรับการเดินทางไปที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะนั้น จะใช้การเดินทางโดยรถบัสประจำทาง ซึ่งใช้เวลาในการเดินทาง ราวๆ 1 ชั่วโมง ด้วยภูมิประเทศที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขา ถูกตัดจากโลกภายนอก จึงทำให้หมู่บ้านนี้ยังคงความเก่าแก่ และยังเคยเป็นแหล่งซ่อนตัวของเหล่าซามูไรยามแพ้สงครามในสมัยก่อน

เมื่อมา เที่ยวเมืองมรดกโลก และมาถึงหมู่บ้านชิราคาวาโกะกันแล้ว สิ่งแรกที่จะได้เห็นก็คือบ้านญี่ปุ่นแบบโบราณขนานแท้ รูปทรงเหมือนบ้านในนิทานหลังคาลาดเอียง 60 องศา เพื่อไม่ให้หิมะติดที่หลังคา ซึ่งใช้วัสดุที่หาได้ เช่น เศษไม้ หญ้าคา โดยไม่ใช้ตะปู แต่ใช้ไม้ขัดกันแล้วมัดด้วยเชือก และมีช่องลมใต้หลังคาเพื่อให้ลมผ่าน จึงทำให้เย็นสบายในหน้าร้อน

เมื่อข้ามสะพานแขวนข้ามแม่น้ำโชกาวะ เข้าไปยังตัวหมู่บ้าน ก็จะเห็นร้านค้า ร้านอาหารที่ถูกดัดแปลงเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยว บางบ้านก็ทำเป็นพิพิธภัณฑ์ ให้นักท่องเที่ยวได้ศึกษาวิถีชีวิตของคนในหมู่บ้านนี้ ความสวยงามอีกอย่างของหมู่บ้านนี้ก็คือ การผันน้ำเข้าสู่หมู่บ้านให้ทุกบ้านมีน้ำใช้ โดยจะมีร่องน้ำใสสะอาด ไหลผ่านหน้าบ้านของทุกๆ บ้าน เราเดินเที่ยวและสัมผัสกับความงามของชิราคาวาโกะ อยู่นานจนสุดท้ายก็ต้องจากลาเมืองนี้ด้วย ของติดมือเป็นขนมไส่ถั่วแดงรูปบ้านชิราคาวาโกะ ก่อนเดินทางกลับเพื่อมุ่งสู่เมืองนาโกยา