เที่ยวเองบินลัดฟ้า ไป Fiji หากพูดถึงฟิจิกันแล้ว ดินแดนแห่งนี้คงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน รวมทั้งดิฉันและเพื่อนๆ ที่ต้องการจะไปพักผ่อน บนชายหาดอันขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใส มองเห็นพื้นทราย และปลาทะเลหลากชนิด ตามสไสต์หมู่เกาะแปซิฟิกใต้อันเลื่องชื่อ

สภาพอากาศที่เริ่มจะดีขึ้นในช่วงนี้ ทำให้หลายๆ คน คงเริ่มคิดที่จะไปเที่ยวไหนกัน แต่ถ้าหากกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติหากพูดถึงฟิจิกันแล้ว ดินแดนแห่งนี้คงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายๆ คน รวมทั้งดิฉันและเพื่อนๆ ที่ต้องการจะไปพักผ่อน บนชายหาดอันขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใส มองเห็นพื้นทราย และปลาทะเลหลากชนิด ตามสไสต์หมู่เกาะแปซิฟิกใต้อันเลื่องชื่อ

หลายคนอาจเคยได้ยินแต่ชื่อ แต่ยังสงสัยว่าฟิจิอยู่ตรงไหนของโลกใบนี้ ตามข้อมูลที่พอหาได้นั้น ฟิจิเป็นหมู่เกาะที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ห่างจากออสเตรเลียไปทางทิศตะวันออกประมาณ 2,880 กิโลเมตร มีเมืองหลวงชื่อ กรุงซูวา (Suva) ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะ Viti Levu

พื้นที่ของประเทศประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 333 เกาะ ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา ไม่ค่อยมีพื้นที่ราบมากนัก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีบ่อน้ำพุร้อนและแม่น้ำหลายสายไหลผ่าน พื้นที่ส่วนใหญ่ยังอุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ และบริเวณชายฝั่งจะมีต้นมะพร้าวมากมาย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของเกาะทางแปซิฟิกใต้เลยก็ว่าได้

ดิฉันและเพื่อนสาวออกเดินทางโดยสายการบิน JetStar สู่สนามบินแห่งชาติเมืองนาดี (Nadi) ซึ่งใช้เวลาในการเดินทาง ประมาณ 4 ชั่วโมง เมื่อเข้ามายังสนามบินฟิจิแล้ว จะได้ยินคำที่ใช้ต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า บูลา (Bula) ที่หมายถึง สวัสดี หรือยินดีต้อนรับ หลังจากนั้นเราก็โดยสารรถของทางโรงแรมไปยังที่พักที่เรียกว่า Denarau Island ซึ่งก็ไม่ไกลจากสนามบินมากนัก

”Denarau Island นั้นก็เหมือนอีกประเทศหนึ่งที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ในฟิจิอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าทำไว้สำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ตัวเมืองฟิจิจะมีลักษณะเหมือนเมืองชายทะเลต่างจังหวัดบ้านเรา แต่เมื่อข้ามสะพานเข้ามาสู่ Denarau Island แล้ว ทุกอย่างถูกเนรมิตให้ทุกอย่างดูสวยงามสะอาดตาไปหมด ”
ขึ้นชื่อว่า Denarau Island ตอนแรกเราเข้าใจกันว่าคงจะเป็นเกาะ แต่แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นเพียงแค่ส่วนปลายแหลมที่ถูกพัฒนาเป็นรีสอร์ทและสนามกอล์ฟ ที่ประกอบไปด้วยโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว รวมทั้งโรงแรม Westin

ที่เราเลือกสำหรับการมาเยือนในครั้งนี้ ว่าไปแล้ว Denarau Island นั้นก็เหมือนอีกประเทศหนึ่งที่แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ ในฟิจิอย่างสิ้นเชิง เรียกได้ว่าทำไว้สำหรับนักท่องเที่ยวเท่านั้น ตัวเมืองฟิจิจะมีลักษณะเหมือนเมืองชายทะเลต่างจังหวัดบ้านเรา แต่เมื่อข้ามสะพานเข้ามาสู่ Denarau Island แล้ว ทุกอย่างถูกเนรมิตให้ทุกอย่างดูสวยงามสะอาดตาไปหมด ต้นไม้ถูกปลูกไว้เป็นแถว ดูร่มรื่น มีอาคารที่เป็นรีสอร์ทหรู มีท่าจอดเรือยอร์ท สนามเทนนิส จนไม่เหลือบรรยากาศความเป็นชาวบ้านธรรมดาๆ อยู่เลย

กิจกรรมในวันแรกนั้น เราเดินทางด้วยรถแท็กซี่ เข้าไปในเมืองนาดี เพื่อหาอาหารทานแล้วเดินเล่นกัน เมื่อเข้ามาถึงตัวเมือง สิ่งแรกที่พวกเรามองหาก็คือร้านอาหารไทย ซึ่งไม่มีให้เห็นเลย หรือแม้แต่อาหารจีนก็แทบจะไม่มีให้เห็นเช่นกัน

ร้านอาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอินเดียแทบทั้งสิ้น ซึ่งมีราคาแพงพอสมควร ถึงแม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนจาก 1 เหรียญออสเตรเลีย จะแลกไปเป็นสกุลเงินฟิจิได้ 1.7 เหรียญ แต่ก็ไม่ค่อยมีความแตกต่างมากนัก อาหารแต่ละจานราคาแทบจะเท่ากับที่ซิดนีย์เลยทีเดียว ยิ่งถ้าไม่แลกเงินมาเขายินดีรับเงินออสเตรเลียแต่จะชาร์จเราแบบหฤโหดโดยคิดค่าเงินออสเท่ากับเงินฟิจิไปเลย

เที่ยวเองบินลัดฟ้า ฉะนั้นทางที่ดีหากเพื่อนๆ อยากมาเที่ยวที่นี่ควรแลกเงินมาก่อนเป็นดีที่สุด หลังจากที่รับประทานอาหารกันเสร็จ เราก็ไปเดินเล่น ชมวิถีชิวิตของชาวฟิจิกัน ซึ่งสังเกตได้ทันทีเลยว่าคนพื้นเมืองฟิจิ เขาจะเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวอย่างเรามาก พวกเขาจะทักทาย ชวนคุยแบบเหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน
หลังจากเดินเล่นในเมืองได้สักพัก เราก็แวะเข้าไปสักการะวัดพราหมณ์ที่มีชื่อว่า Sri Siva Subramaniya Temple การเข้าไปสักการะนั้น ผู้หญิงทุกคนจะต้องเปลี่ยนเป็นผ้าคลุมสไตล์อินเดีย ซึ่งทางวัดเขามีให้บริการในราคา 5 เหรียญฟิจิ หลังจากไหว้พระ ขอพรกันแล้ว พวกเราก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อเก็บแรงไว้เพื่อจะไปเที่ยวเกาะ South Sea Island อันเลื่องชื่อในวันรุ่งขึ้น