เที่ยว Great Ocean Road เมืองเมลเบิร์น ที่ใตรๆอยากจะได้ไปสัมผัส ขับรถเที่ยวจากมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย นอกจากจะมีวิวทิวทัศน์ของทะเลที่สวยแล้ว ยังมีเมืองน่ารัก ๆ ให้ได้ไปพักผ่อนย่อนใจ
วันนี้ผมรู้สึกตื่นเต้นเป็นที่สุด เพราะจะได้ขับรถไปบนถนนที่เรียกได้ว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดสายหนึ่งบนโลกใบนี้ ผมและเพื่อนๆ เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่เช้า โดยขับรถผ่านเข้าไปชมความสวยงามของตัวเมืองเมลเบิร์น ที่แสนจะสงบเงียบเป็นอันดับแรก ที่จอดรถหาง่ายและไม่แพงอย่างที่ซิดนีย์ แต่ปัญหาใหญ่ก็คือร้านค้าส่วนใหญ่ยังไม่เปิดบริการลูกค้ามากนัก หลังจากที่เราได้ชื่นชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันสักพัก
สิ่งน่าสนใจหลังจากออกจากตัวเมืองเมลเบิร์นก็คือ สะพาน Westgate สะพานที่ให้ความรู้สึกเหมือนสะพานพระราม 9 บ้านเราไม่มีผิด เพราะนอกจากรูปทรงที่ใช้สลิงเป็นตัวยึดเกาะเหมือนกันแล้ว สะพาน Westgate ยังเป็นเส้นทางที่ใช้เชื่อมต่อเขตเมืองด้านทิศตะวันออกกับเมืองอื่นๆ ทางทิศตะวันตกอีกด้วย
หลังจากขับรถมาได้ไม่นานเราก็เจอกับจุดพักรถบนถนน Princes Freeway ซึ่งใกล้กับสนามบิน Avalon ที่มีจุดบริการนักท่องเที่ยวคอยให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปชม Great Ocean Road, The 12 Apostles และเมืองรอบๆ เราจึงตัดสินใจแวะทานอาหารเช้า และแวะซื้อเสบียงกันที่นี่ โดยเฉพาะเชอร์รี่ลูกใหญ่รสชาติดีแถมไม่แพงอีกด้วย
หลังจากนั้นเราก็เข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจจากสตาร์ฟอาสาสมัครที่แสนจะเป็นมิตร ที่คอยให้ข้อมูลเราอย่างละเอียด จนทำให้เรารู้ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้เราได้เลือกไปแต่ต้องเลือกไปเฉพาะบางที่เท่านั้นเพราะถ้าจะแวะหมดคงไปไม่ถึง The 12 Apostles ก่อนพระอาทิตย์ตกดินแน่นอน
สถานที่แรกที่เราได้จอดแวะก็คือ เมืองจีลอง (Geelong) เมืองแห่งนี้เป็นเมืองชนบทที่ใหญ่ที่สุดในรัฐวิคตอเรีย เมืองนี้มีความเก่าแก่ และมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ จีลองเคยเป็นเมืองที่ใช้เป็นท่าเรือขนส่งขนสัตว์จากเมืองทางทิศตะวันตกในยุค 1800 และในช่วงการขุดหาทองเฟื่องฟูในออสเตรเลีย
คนจากทั่วสารทิศก็อพยพเข้ามาอยู่ที่เมืองแห่งนี้ จนทำให้เกิดความหลากหลายทางด้านวัฒนธรรมเป็นอย่างมาก ไฮไลท์ของเมืองการมาเยือนจีลองอยู่ตรงบริเวณริมน้ำที่เรียกว่า The Waterfront ซึ่งมีกิจกรรมและงานศิลปะมากมายให้ได้เลือกชมและถ่ายรูป อย่างเช่น งานประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายกับครีบของปลาหรือใบเรือ (North) ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมืองจีลองเลยก็ว่าได้และตุ๊กตาไม้ (Bollards Trail) หลากหลายรูปแบบที่ทาสีเป็นคนในอาชีพต่างๆ กว่าร้อยตัวที่ทำจากเสาผูกเรือ
จากนั้นเราก็ออกเดินทางต่อโดยขับรถผ่านเมือง Torquay ซึ่งถือเป็นจุดเรื่มต้นของถนน Great Ocean Road พอขับรถไปตามทางที่ลัดเลาะชายฝั่งได้สักพัก เราก็มาถึงเมือง Aireys Inlet เมืองนี้มีจุดที่น่าสนใจตรงที่มีประภาคารเก่าแก่ ที่มีหลังคาสีแดงตัดกับสีขาวของตัวประภาคารและน้ำทะเลสีนำเงินเข้ม เมื่อเราได้สูดอากาศสดชื่น ได้ถ่ายภาพ และเดินเล่นตามทางลงไปสู่ชายหาดกันแล้ว ก็เดินทางต่อกันทันทีโดยมาหยุดตรงซุ้มประตูที่เป็นสัญลักษณ์ของถนนแห่งนี้อย่างแท้จริง และตรงนี้เองมีอนุสรณ์สถานที่เรียกว่า Memorial Arch ที่สร้างไว้เป็นเกียรติแด่ทหารหาญทั้ง 3000 นายที่รอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ซึ่งพวกเขาเหล่านี้เป็นผู้ที่สร้างถนนสายนี้ขึ้นมา
“ ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการมา เที่ยว Great Ocean Road เมืองเมลเบิร์น นั้น จะต้องเตรียมการให้ดีก่อนออกเดินทาง ควรออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าเพราะใช้เวลาค่อนข้างมาก แวะเติมน้ำมัน ตรวจสภาพรถให้ดีก่อนออกเดินทางเพราะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวและค่อนข้างอันตราย รวมทั้งไม่มีสถานบริการน้ำมันให้บริการมากนัก ”
จากแผนการที่วางไว้ว่าพวกเราจะแวะพักทานอาหารกลางวันกันที่ Cape Otway ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นอุทยานแห่งชาติ ที่มีทัศนียถาพที่สวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่จะมาแคมปิ้ง รวมทั้งประภาคาร Cape Otway Lightstation ที่ถือเป็นจุดเด่นของจุดพักบริเวณนี้เลย แต่ด้วยเวลาที่มีจำกัดและฝนที่ตกลงมาอย่างที่เราไม่ได้คาดคิดมาก่อน จึงทำให้เราจำเป็นต้องขับผ่านจุดนี้ไปด้วยความเสียดาย เพราะเราต้องขับรถด้วยความระมัดระวังกันมากขึ้นซึ่งแน่นอนเวลาในการเดินทางก็ต้องมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับมื้อกลางวันที่เราฝันไว้ก่อนหน้านี้ถูกแทนที่ด้วยแซนวิชของร้านอาหารข้างทางที่เราขับผ่าน ถึงแม้รสชาติจะไม่ได้โดดเด่นอะไรนักแต่ด้วยบรรยากาศ 2 ข้างทางที่มองได้ไม่รู้เบื่อ ก็ทำให้อาหารกลางวันมื้อนี้ดูน่าทานขึ้นถนัดตา
หลังจากที่ขับรถเวียนไปเวียนมา ขึ้นเขาลงเขาไม่รู้กี่ลูก ในที่สุดเราก็มาถึงจุดที่เป็นไฮไลท์ของการเดินทางในวันนี้ นั่นก็คือ The 12 Apostles พร้อมกับวิวที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าพอดี ไม่รอช้าเราก็รีบคว้ากล้องไปถ่ายรูปที่เรียกได้ว่าเป็น Million Dollar View เลยก็ว่าได้ เพราะแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลับฟ้าสะท้อนกับน้ำทะเลและหน้าผาเป็นประกายสีทอง สวยจนไม่สามารถอธิบายได้เลยจริงๆ เรามีเวลาชมความงามของที่นั่นได้ไม่นาน ความมืดก็เข้ามาแทนที่อย่างรวดเร็ว จนทำให้เราต้องตัดสินใจกลับที่พักและหาอาหารเย็นทานกัน
ส่วนทางกลับนั้นเราได้รับคำแนะนำจากจุดบริการนักท่องเที่ยวว่าให้ใช้เส้นทางขากลับอีกเส้นทางหนึ่งเพราะเส้นทางนี้จะใช้เวลาน้อยกว่าและปลอดภัยกว่าด้วย คือใช้เส้นทาง Princetown Rd แล้วเลี้ยวขวาที่ Scotts Creek-Carpendeit Road จากนั้นเลี้ยวซ้ายที่ Tomahawk Creek Road ก่อนจะมาเลี้ยวขวาอีกทีที่ Princes Highway เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองจีลองจากประสบการณ์แสนประทับใจที่ผมและเพื่อนๆ ได้รับในวันนี้นั้น ต้องขอบอกก่อนเลยว่าการมา เที่ยว Great Ocean Road เมืองเมลเบิร์น นั้น จะต้องเตรียมการให้ดีก่อนออกเดินทาง ควรออกเดินทางกันตั้งแต่เช้าเพราะใช้เวลาค่อนข้างมาก แวะเติมน้ำมัน ตรวจสภาพรถให้ดีก่อนออกเดินทางเพราะเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวและค่อนข้างอันตราย รวมทั้งไม่มีสถานบริการน้ำมันให้บริการมากนัก
สำหรับใครที่เมารถอย่าลืมพกยาแก้เมาติดตัวไปด้วยเพราะคุณได้ใช้มันแน่ๆ แต่หากใครที่ไม่ได้รถขับไปกันเอง ก็สามารถซื้อทัวร์แบบ One Day Trip ในราคาประมาณ 120 เหรียญต่อคน ซึ่งออกเดินทางจากในเมืองโดยมีจุดรับตามโรงแรม ทัวร์นี้จะใช้เวลาประมาณ 13 ชั่วโมง โดยเป็นรถบัสขนาดเล็ก มีคนขับรถที่เป็นไกด์นำทางและอธิบายสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ให้เราฟังด้วย