สถานที่ท่อง เที่ยว Hunter Valley เป็นแหล่งปลูกองุ่นผลิตไวน์อันลือชื่อของออสเตรเลีย และเที่ยวสวนไม้ดอกไม้ประดับ เรียกว่า Hunter Valley Gradens
ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยว Hunter Valley ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังแห่งหนึ่งของประเทศออสเตรเลีย ในเช้าวันอาทิตย์ผมได้ออกเดินทางไปยัง Hunter Valley โดยใช้รถยนต์ส่วนตัวออกจากตัวเมืองซิดนี้เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น
เมื่อถึงบริเวณเนินเขาไร่องุ่นก็จะพบกับความเงียบสงบและ ความสวยงามของ Hunter Valley เลียบสองข้างทางจะเต็มไปด้วยทุ่งกว้างใหญ่เกินระยะสายตามองจะมีรั้วกั้นเป็นระยะ ๆ เพื่อแบ่งอาณาเขตของแต่ละไร่ ความรู้สึกของผมเมื่อได้มาถึงที่แห่งนี้ ตอบได้เลยครับว่า สงบร่มรื่นและกว้างใหญ่
ถ้าจะให้เทียบกับประเทศไทยก็คงจะเป็นเวลาที่เพื่อน ๆ ไปเที่ยวชมไร่องุ่น Sliverlake ที่พัทยาหรือไม่ก็ได้องุ่น Granmonte แถวเขาใหญ่รวมเข้ากับบรรยากาศชิว ๆ แบบไร่สตอเบอรี่ที่เชียงใหม่เป็นความลงตัวที่เข้ากันอย่างดี
จุดแรกที่ผู้เดินทางควรจะแวะก็คือ The Hunter Valley Wine Interpretive Centre ซึ่งว่าง่ายๆก็คือจุดประชาสัมพันธ์ที่เราจะสามารถไปสอบถามข้อมูลต่างๆของไร่องุ่นแต่ละที่ รวมถึงกิจกรรมมีให้เลือกใช้บริการในแต่ละจุดเช่นนั่งบอลลูนลอยฟ้าเพื่อชมบรรยากาศโดยรอบของไร่องุ่นทั้งหมดขี่ม้าหรือไม่ว่าจะเป็น Sky driving เป็นต้นหลังจากที่ไปสอบถามข้อมูลจากจุดประชาสัมพันธ์
เค้าก็แนะนําให้ลองไปเดินชมวิวที่ Hunter Valley Gardens ซึ่งเป็นสวนดอกไม้ชื่อดังของ Hunter Valley นั่นเอง เมื่อเดินทางไปถึง Hunter Valley Garden เราต้องเสียค่าเข้าชมในราคา $24 ต่อท่านหรือถ้าเราไปเป็นกลุ่มเป็นสิบคนขึ้นไปราคาก็จะถูกลงมาเป็น $18 ต่อท่าน
Hunter Valley Gardens เป็นสวนที่กว้างใหญ่มากครับในตัวของสวนได้แบ่งออกเป็นโซนซึ่งในแต่ละโซนก็จะตกแต่งในรูปแบบเฉพาะของสวนนั้น ๆ ตัวอย่างเช่น Chinese Garden, Italian Grotto, Indian Mosaic Garden Border Garden, Oriental Garden, Sunken Garden Storybook Garden เป็นต้นหลังจากที่ผมได้เดินจนทั่ว Hunter Valley Gardens
“ามีไร่องุ่นสาธิตให้เราสามารถเดินเข้าไปดูได้จริงๆและเมื่อเดินเข้าไปในไร่ก็จะพบกับ Cellar Door ซึ่งเป็นห้องชิมไวน์เราสามารถที่จะเลือกชิมไวน์หลากหลายชนิดของเขาก่อนที่จะทำการเลือกซื้อตามใจชอบไม่ใช่แค่ McWilliam ที่มีให้ชมและชิมเท่านั้น แต่ในทุกๆไร่องุ่นเราสามารถขอชิมไวน์ได้”
ผมรู้สึกประทับใจ Storybook Garden มากครับ Storybook Garden เป็นส่วนที่ตกแต่งให้เหมือนโลกในนิยายหลาย ๆ เรื่องรวมกันเช่น Jack and Jill Humpty Dumpty และ Alice in Wonderland โดยตลอดข้างทางเดินจะมีตัวการ์ตูนพร้อมเนื้อเรื่องอธิบายว่าในบริเวณนั้นเป็นฉากใดในนิทานเรื่องนั้น ๆ
หลังจากที่พวกผมได้เดินเที่ยวในบริเวณสวนเสร็จก็ตัดสินใจที่จะขับรถไปชมไร่องุ่นสักแห่งจากหลายสิบไร่ในที่สุดผมก็ตัดสินใจเลือกไปชม Mt Pleasant Mc William ซึ่ง McWilliam เป็นหนึ่งในไร่องุ่นที่เก่าแก่ที่สุดของ Hunter Valley ในไร่องุ่น McWilliam เขามีไร่องุ่นสาธิตให้เราสามารถเดินเข้าไปดูได้จริงๆและเมื่อเดินเข้าไปในไร่ก็จะพบกับ Cellar Door ซึ่งเป็นห้องชิมไวน์เราสามารถที่จะเลือกชิมไวน์หลากหลายชนิดของเขาก่อนที่จะทำการเลือกซื้อตามใจชอบไม่ใช่แค่ McWilliam ที่มีให้ชมและชิมเท่านั้น แต่ในทุกๆไร่องุ่นเราสามารถขอชิมไวน์ได้นะครับ
ในเดือนตุลาคมถึงมกราคมของทุกปี Hunter Valley จะมีนิทรรศการดีๆถึงห้าอย่างพร้อมกันนั่นคือ Sculpture in the Vineyards เป็นนิทรรศการแสดงศิลปะกลางแจ้งตลอดเส้นทาง Wollombi Valley Wine Trail, พักผ่อนกับการปิกนิกแสนอร่อยที่ Bimbadgen Blues, Opera in the Vineyards and Jazz in the vines คือเทศกาลฟังดนตรีแจ๊สสดในสวนนั่นเองและ Festival of the flowers คือเทศกาลที่จัดขึ้นมาเพื่อให้นักเดินทางได้เลือกชมสวนดอกไม้ที่บานสะพรั่งตลอดสองข้างทางของ Hunter Valley
เมื่อฤดูใบไม้ผลิเริ่มต้นขอเชิญท่านผู้อ่านลองไปเที่ยว Hunter Valley สำรวจโรงไวน์รับกลิ่นไอธรรมชาติทดลองกิจกรรมใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยทำการพักผ่อนที่ เที่ยว Hunter Valley จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้คุณประทับใจที่มีมากกว่าไร่องุ่น