เฮดโค้ช อุดม แบดมินตันทีมชาติไทย

เฮดโค้ช อุดม เหลืองเพชราภรณ์ แบดมินตันทีมชาติไทย วันนี้ทีมงาน VR Thai ได้มีโอกาสเข้าชมการฝึกซ้อมของนักกีฬาและได้พูดคุยกับโค้ชผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของนักแบดมินตันทีมชาติไทยมากว่า 10 ปี

การแข่งขันแบดมินตัน Super Series รายการใหญ่ The Star Australian Badminton Open 2014 ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีที่ ซิดนีย์โอลิมปิค พาร์ค ได้ทำการแข่งขันเสร็จสิ้นไปแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่านักกีฬาไทยจะไม่สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ แต่อย่างน้อยก็เป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับทัวร์นาเมนต์ต่อๆ ไป

ครั้งนี้มาแข่งขันรายการอะไรครับ

รายการนี้เป็นรายการ Super Series ระดับ 6 ดาว ถ้าเป็นชิงแชมป์โลกจะเป็นแบบ 7 ดาว ข้อดีของรายการนี้นอกจากจะเป็นรายการสะสมคะแนนแล้วยังมีเงินรางวัลให้ ซึ่งต่างจากชิงแชมป์โลกที่เป็นการสะสมคะแนนเพียงอย่างเดียว และถ้าใครได้คะแนนสะสมจากการแข่งขันทั้งหมด 12 รายการต่อปี จนติดอันดับ 1 ใน 8 ก็จะได้เข้าไปชิงเงินรางวัลก้อนใหญ่ในทัวร์นาเมนต์สุดท้าย

ผลงานของนักแบดมินตันไทยมีการพัฒนาอยู่ในระดับใดบ้าง

หลังจากที่ผมอำลาทีมชาติในฐานะนักกีฬาแบดมินตันทีมชาติ ผมก็ผันตัวไปเป็นโค้ชสอนแบดมินตัน จนในปี 2001 ทางสมาคมแบดฯ ก็มาติดต่อให้ไปเป็นโค้ชทีมชาติ ก็ทำทีมและสร้างนักกีฬา จนนักกีฬาของเราเก่งขึ้นเรื่อยๆ และเป็นที่จับตาจากนานาชาติ โดยเฉพาะสิ่งที่ผมภูมิใจที่สุดก็คือเราได้ที่ 4 ในกีฬาโอลิมปิคที่เอเธนส์ และในปีที่แล้ว น้องเมย์ รัชนก ก็สร้างชื่อให้กับคนไทย ด้วยการคว้าแชมป์โลกประเภทหญิงเดี่ยวมาครอง ซึ่งถ้าหากดูในภาพรวมแล้วผลงานนักแบดฯ ของเราทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนทำอันดับมาอยู่ในช่วงกลางค่อนข้างหัวในทุกประเภทเมื่อเทียบกับชาติอื่นๆ

อุปสรรคของการทำทีม

สมัยก่อนเรามีงบน้อยมาก ส่งแข่งได้ไม่เกินครั้งละ 5 คน ปัจจุบันมีผู้ให้การสนับสนุนเข้ามา จนส่งแข่งได้เกือบ 20 คน ช่วงหลังสมาคมฯ ได้สปอนเซอร์จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SCG เข้ามาช่วยเหลือสมาคม จนทำให้เราหมดปัญหา ทั้งเรื่องส่งนักกีฬาเข้าแข่งขัน ค่าเดินทางทั้งหมด ถึงแม้นักกีฬาของเรายังต้องหากินเองอยู่บ้างเวลาไปแข่งแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะนักกีฬาแบดมินตันบ้านเราใน ปัจจุบันมีรายได้มากขึ้น มีผู้สนับสนุนมากขึ้นก็สามารถใช้จ่ายตรงนี้ได้

ในฐานะโค้ชต้องจัดการกับนักกีฬาที่มีพื้นฐานทางครอบครัวที่ต่างกันอย่างไร

ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับโค้ชนะ กฎเกณฑ์มันมีอยู่แล้ว เราต้องปลูกฝังให้ทุกคนมีจิตสำนึกที่ดี อบรมสั่งสอน ส่วนมากก็มาจากคนละพ่อคนละแม่ นิสัยก็ไม่เหมือนกัน เราก็ต้องสอนว่า อันไหนไม่ดีก็แนะนำเขา เตือนเขา ให้เขาเห็นแก่ส่วนรวม และที่สำคัญต้องใกล้ชิด ให้ความรักความอบอุ่นเขา เหมือนลูก เหมือนน้อง สร้างขวัญและกำลังใจให้เขา

การผลักดันของสมาคมในหารเฟ้นหานักกีฬาในอนาคต

การเฟ้นหานั้นทางสมาคมฯ ไม่ต้องทำอะไรมาก เนื่องจากที่บ้านเรา คนให้ความสนใจกีฬาชนิดนี้มากขึ้น ตอนนี้สนามแบดก็มีเยอะ มีทัวร์นาเมนต์ระดับเยาวชนให้แข่งกันมากมาย พอใครมีตำแหน่งหรือได้แชมป์ ทางสมาคมก็จะไปดึงตัวมา เพื่อปั้นให้เป็นทีมชาติ แต่ทางสมาคมฯ มีพื้นที่จำกัด งบก็มีจำกัด เรามีนักแบดฯ ทีมชาติในทุกรุ่นเพียงแค่ 20 กว่าคนเท่านั้น การพัฒนาก็ทำได้แค่นี้ ทำให้เราจะมีผู้เล่นเด่นๆ แค่นิดเดียว

ฉะนั้นเราต้องหาทางพัฒนาเด็กใหม่ให้ขึ้นมาเยอะๆ เพื่อทางสมาคมฯ จะได้มีตัวเลือกมากขึ้น เนื่องจากความความมั่นคงของอาชีพนักกีฬาในเมืองไทยัยงมีน้อยจึงทำให้ยังไม่สามารถเล่นเป็นอาชีพได้ นักกีฬาส่วนใหญ่ยังคงต้องไปเรียนหนังสือ เพื่อความก้าวหน้าในชีวิตหากไม่ได้เป็นนักกีฬาแล้ว ซึ่งต่างกับชาติอื่นๆ ที่เขาจบมัธยมปลายก็ต้องเลือกแล้วว่าจะเป็นนักกีฬาหรือหรือจะเลิกแล้วกลับไปเรียนต่อ

คำแนะนำสำหรับผู้ที่เริ่มเล่น

นักกีฬาที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น มันต้องเกิดมาพร้อมพรสวรรค์เป็นอันดับแรก บางทีผู้ปกครองอยากให้ลูกเล่น อยากให้ลูกเก่ง แต่ลูกอาจจะไม่ได้เกิดมาเก่งด้านนี้ เขาอาจจะเก่งร้องเพลง ซึ่งเราจะไปบังคับก็ไม่ได้ สิ่งที่ดีที่สุดก็คือต้องให้เขาไปลองกีฬาหลายๆ อย่าง แล้วให้เขาคิดว่าเป็นการออกกำลังกาย ไม่ต้องไปกดดันเขา แล้วดูว่าเขาชอบหรือไม่ชอบ มีแววมั้ย

ถ้ามีแล้วค่อยส่งเสริมต่อ หา เฮดโค้ช ที่มีมาตรฐานมาสอน จนพอเข้าแข่งขันได้ก็ส่งเข้าแข่งขัน มันจะขึ้นไปทีละขั้น เขาก็จะชอบและก็จะเก่งไปเอง มันก็เหมือนกับเพชรนั่นแหละ ถ้าเราได้เพชรที่ไม่ดีมา เจียระไนมาก็ไม่สวย แต่ถ้าได้เพชรเม็ดงามมา แต่คนเจียระไนไม่เก่งก็เสียของ

อยากฝากอะไรทิ้งท้ายให้กับแฟนกีฬาหน่อยครับ

เวลามีนักกีฬามาแข่ง ก็อยากให้มาเชียร์กันเยอะๆ ไม่จำเป็นต้องนักกีฬาแบดมีนตันอย่างเดียว นักกีฬาประเภทไหนก็ได้ เขาจะได้มีกำลังใจ ตอนนี้นักกีฬาแบดๆ เราสู้เขาได้ ไม่น่าเกลียด ก็อยากให้ช่วยกันเชียร์ ช่วยกันสนับสนุน และขอขอบคุณทางกระทรวงการต่างประเทศ ที่มอบหมายให้ทางสถานทูตฯ สถานกงสุลใหญ่ในทุกประเทศที่เราส่งนักกีฬาไปแข่ง ให้การต้อนรับ ช่วยเหลือดูแลทั้งเรื่องอาหารการกินและอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี