Home บทความอยู่ออส ไวน์โรเซ่ (Rosé wine) สำหรับฤดูร้อนที่พลาดไม่ได้

ไวน์โรเซ่ (Rosé wine) สำหรับฤดูร้อนที่พลาดไม่ได้

by ChaYen

ไวน์โรเซ่ (Rosé wine) สำหรับฤดูร้อนที่พลาดไม่ได้ แบบนี้ โรเซ่ก็เป็นอีกหนึ่งไวน์ที่ชาวออสเตรเลียจะหาซื้อมาดื่มกัน ด้วยความลงตัวของโรเซ่ที่เป็นไวน์มีสีและแช่เย็นจึงทำให้คนที่ชอบดื่มไวน์แดงหรือไวน์ขาวมาดื่มด้วยกันได้

นอกจากนั้นไวน์ชนิดนี้ยังเหมาะที่จะทานกับอาหารทะเล บาร์บีคิวของปิ้งย่างเป็นอย่างมาก เพราะฉะนั้นเราจึงไม่ควรมองข้ามไวน์โรเซ่ในช่วงหน้าร้อนนี้

ชื่อโรเซ่เริ่มถูกเรียกกันตั้งแต่ประมาณปี 1980 แต่ไวน์ชนิดนี้ได้รับความนิยมจากชาวฝรั่งเศสมาก่อนหน้านั้น

ไวน์โรเซ่ที่มีชื่อเสียงของโลกจะมาจากเมือง Bandol เมืองที่อยู่ทางตอนใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อยู่ระหว่างเมือง Marseille กับ Toulon ส่วนไวน์จากโลกใหม่นั้นจะไม่มีกฏกติกาว่า องุ่นชนิดไหนสามารถนำมาผลิตโรเซ่ได้

ไวน์โรเซ่ (Rosé wine)

องุ่นเกือบทุกชนิดสามารถนำมาทำ ไวน์โรเซ่ (Rosé wine) ได้หมด อย่างเช่นที่รัฐ South Australia จะปลูกองุ่น Shiraz เยอะก็จะใช้องุ่นพันธุ์นี้ในการผลิต ส่วนทาง Brisbane ก็จะใช้องุ่น Pinot Noir  

องุ่นที่ใช้ในการผลิตนั้นจะขึ้นอยู่กับผลผลิตองุ่นในแต่ละปี ซึ่งถ้ามีมากเกิน ผู้ผลิตไวน์ก็จะนำองุ่นที่เกินความต้องการเหล่านี้มาผลิตเป็นโรเซ่แทน

ไวน์โรเซ่ (Rosé wine)

กรรมวิธีการผลิตโรเซ่นั้นก็ไม่ยุ่งยากซับซ้อนเหมือนไวน์แดงหรือไวน์ขาว จึงทำให้ไวน์ชนิดนี้่มีราคาถูกกว่าไวน์ชนิดอื่นๆ โดยทั่วไปราคาจะตกอยู่ที่ขวดละ 13-40 เหรียญเท่านั้น

สีของไวน์ชนิดนี้จะออกเป็นสีชมพูอ่อน (Salmon Pink) ส้มไปจนถึงม่วงอ่อน ซึ่งขึ้นอยู่กับเทคนิควิธิการและกระบวนการผลิตของนักปรุงไวน์แต่ละคน ซึ่งรสชาติที่ออกมาก็จะแตกต่างกันไป

Turkey Flat

“โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอากาศร้อนๆต้อนรับสงกรานต์ที่จะมาถึงนี้ในสุดยอดคุณสมบัติของไวน์โรเซ่ คือ เป็นไวน์ที่สามารถนำมาจับคู่กับอาหารได้มากมายหลายเมนู ด้วยความที่เป็นไวน์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างไวน์ขาว และไวน์แดง จิบได้ดีกับอาหารทะเล และสเต็ก แต่จะให้ดีเยี่ยม ต้องจิบในขณะเย็นจัด ให้ชุ่มฉ่ำใจ ”

ChaYen

การเลือกไวน์ชนิดนี้จะต้องดูว่าไวน์ขวดนั้นว่าใครเป็นคนผลิตและดูว่าน้ำตาลในองุ่นนั้นมีมากแค่ไหน ถ้ามีเยอะก็จะไม่ดี โดยปกติโรเซ่จะมีรสอ่อน ออกหวาน และมีกลิ่นหอม จึงทำให้คุณผู้หญิงจะชอบดื่มไวน์ชนิดนี้เป็นพิเศษ แต่เซียนไวน์มักจะดื่มโรเซ่ที่มีรสหวานน้อย และออกแห้งมากกว่า  การดื่มไวน์ชนิดนี้ควรจะดื่มที่อุณหภูมิ 7-13 C และ 6-11 C สำหรับโรเซ่ที่เป็นแบบ Sparkling

ไวน์โรเซ่ (Rosé wine)

ไวน์โรเซ่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกก็คือ San Miquel และ Rose’D Anjou แต่สำหรับใครที่อยากลองดื่มโรเซ่ที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลีย Dominique Portet-Spinifex-Turkey Flat ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ หาซื้อง่าย แถมราคาไม่แพงอีกด้วย

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด ที่จะเรียนรู้ให้มากขึ้นเกี่ยวกับไวน์โรเซ่ ก็คือ การเดินทางท่องเที่ยวไปตามแหล่งผลิตไวน์โรเซ่ที่มีชื่อเสียงต่างๆทั่วโลก ซึ่งแน่นอน แต่ละประเทศย่อมมีสไตล์การผลิตที่แตกต่างกันออกไป

สำหรับโรเซ่ในมุมมองของคนไทยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่นัก เพราะยังติดกับไวน์แรงและกลิ่นหอมของมันอยู่ ทั้งๆ ที่ไวน์ชนิดนี้เหมาะกับสภาพภูมิอากาศและอาหารของไทยเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอาหารที่มีรสเผ็ด จำพวกยำ เป็นต้น

Related Articles