Real Hero Muay Thai ค่ายมวยไทยในออสเตรเลีย สิ่งหนึ่งที่ถูกนำมาเป็นหัวข้อในวงสนทนาที่ออกรสของผู้ชายนั้นคือกีฬา แน่นอนว่าฟุตบอลคืออันดับหนึ่ง และ K-1 ศิลปะการต่อสู้ที่กำลังเป็นที่นิยมตีตื้นขึ้นมาเทียบคู่ฟุตบอลในขณะนี้
ขอขยายความก่อนว่า K-1 เป็นกีฬาการต่อสู้ที่รวมเอาทุกศาสตร์แขนงมาต่อสู้กันในรูปแบบของมวยไทย จึงทำให้มวยไทยกลายเป็นกระแสที่นิยมมากในขณะนี้ และประกอบกับเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ทีมโปรโมเตอร์มวยไทยแห่งออสเตรเลีย นำโดยคุณมาร์ค มาร์โก้ มะลิวงศ์ คุณเจริญ กุลีช่วย และคุณชาญคณา ทัศน์เอี่ยมได้ร่วมมือกับบริษัทมวยไทย ของดร.เอกชัย พวงกลิ่น จัดงาน Real Hero Muay Thai ขึ้น VR Thai จึงขอหยิบยกเอาศิลปะมวยไทยนี้มานำเสนอให้คนไทยและเยาวชนไทยได้ภาคภูมิใจกันบ้าง ขอเริ่มต้นจากตัวแทนทีมโปรโมเตอร์

คุณมาร์โก้ มะลิวงษ์
“Real Hero Muay Thai ถูกจัดขึ้นเพื่อผลักดันวงการมวยไทย ไม่ใช่แค่ให้นักมวยต่อยมวยอย่างเดียว ไม่เรียนหนังสือ เราต้องการสร้าง Real Hero ของมวยไทยจริงๆ ค่ายมวยในออสเตรเลียให้การตอบรับโครงการของเราเป็นอย่างดี นี่เป็นโครงการแรกที่มวยไทยได้รับการขึ้นทะเบียนภายใต้การดูแลของรัฐบาลออสเตรเลีย มีการถ่ายทอดในลักษณะของ Pay Per View อีกทั้งยังได้ไปฉายใน ช่อง Fox Sports เพื่อตอกย้ำว่าโครงการนี้ยังได้รับความสนใจจากสื่อชั้นนำ

ภายในงานจะมีนักมวยที่มีชื่อเสียงของออสเตรเลียมาร่วมชมด้วย อีกทั้งยังยัง Commentator ฟุตบอลชื่อดังมาร่วมในงาน ส่วนบุคคลในตำนานมวยไทยที่จะมาในงานด้วยก็มีสามารถ พยัคฆ์อรุณ และซุปเปอร์สตาร์ อย่างบัวขาว พี่กำลังคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้มวยไทยเป็นอเมซิ่งไทยแลนด์ตามคำนิยามของการท่องเที่ยวไทย
จากการสำรวจแล้วมีชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 8 พันคนไปเรียนมวยที่เมืองไทย ถ้าหากมีการประชาสัมพันธ์มากขึ้นเรื่อยๆ จำนวนผู้สนใจไปเรียนก็จะเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน ส่วนนักมวยในโครงการ Real Hero จะได้รับทุนเรียนภาษาอังกฤษฟรี 1 ปี มีที่พักและอาหารให้ฟรี โดยที่เขาจะต้องไปช่วยเผยแพร่มวยไทยเบื้องต้นให้ชาวต่างชาติได้รับรู้ ในเวลาเดียวกันเขาก็จะมีรายได้ ส่งเงินกลับบ้านให้พ่อแม่ด้วย

ดร.เอกชัย พวงกลิ่น Business Developer ของ บริษัท Muay Thai
“การที่ใช้ชื่อว่า Real Hero นั้นเพราะเราไม่ได้เน้นผู้ชนะจะต้องเป็นใคร ชาวไทย หรือชาวต่างชาติ เราอยากจะทำอะไรที่เกี่ยวกับคนไทยที่มีเรื่องราวสู้เพื่อพ่อแม่ สู้เพื่อครอบครัว อยากผลักดันให้เด็กที่มีฐานะยากจนให้มีรายได้ อนุรักษ์และสร้างประโยชน์ให้กับชาติโดยใช้ศิลปะมวยไทย เราได้ร่วมมือกับสถาบันราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงซึ่งเป็นที่ที่เราส่งเด็กไปเรียนหนังสือ พร้อมกับฝึกฝนมวยไปด้วย
ทุกๆ ปีเราจะมีการมอบทุน 20 ทุน ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อส่งเด็กที่ได้รับคัดเลือกมาสอนมวยที่ออสเตรเลีย ปีนี้เราได้ส่งสิงห์พายัพ และ De Select มาอยู่ที่ออสเตรเลียและเขาก็จะได้ทุนเรียนภาษาอังกฤษด้วย พอเขาเรียนจบพร้อมกับประสบการณ์ที่ได้ 1 ปีกลับเมืองไทย แล้วก็จะไปพารุ่นใหม่มาทำหน้าที่ตรงนี้ต่อ เขาก็จะกลายเป็น Real Hero ผู้ที่สู้เพื่อตัวเอง เพื่อครอบครัว

และนี่ก็คือคอนเซปต์หลักๆ โครงการต่อไป ที่เรากำลังมุ่งเน้นก็คือ Real Hero ทางด้านเศรษฐกิจ ถ้าคนออสเตรเลียต้องการหาที่เรียนมวยไทย ก็สามารถติดต่อผ่าน Real Hero เราก็จะประสานงานกับสถาบันพละ ซึ่งเขาจะมีโรงยิม สนามมวย ตั้งอยู่ที่คลอง 13 ปทุมธานี เพียบพร้อมด้วยห้องพักที่ได้มาตรฐานประมาณ 30 ห้อง
เราจะได้ผลประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจในเรื่องของ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ธุรกิจการท่องเที่ยว ธุรกิจเสื้อผ้าและอุปกรณ์มวย ประกันชีวิต ที่พัก สิ่งอุปโภคบริโภค จากคนที่มาเรียนมวยพร้อมทั้งครอบครัวเขาด้วยดังนั้นเราก็จะเป็น Real Hero ทางเศรษฐกิจ ในอนาคตข้างหน้า เรามีแพลนจะทำแอปพลิเคชั่นเกี่ยวกับมวยไทยให้คนโหลดมาศึกษาเราอยากจัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมที่ดีของไทยด้วย”

คุณเจริญ กุลีช่วย
“ผมอยากประชาสัมพันธ์มวยไทยให้สู่สากล ให้นักมวยไทยได้ออกสู่เวทีโลก ไปเห็นว่าเมืองนอกเขาจัดกันอย่างไร ทำกันอย่างไร แล้วก็สร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย เพราะมวยไทยก็ถือเป็นกีฬาประจำชาติอย่างหนึ่ง เราใช้เวลากว่า 1 ปีในการจัดตั้งโครงการนี้ขึ้น ทั้งติดต่อประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งค่ายมวย การกีฬาแห่งประเทศไทย Sport Authority ของออสเตรเลีย

นักมวยทุกคนที่มานั้นได้รับการรับรองจากการกีฬาแห่งประเทศไทย แต่ละคนล้วนเป็นแชมป์มาก่อนที่เมืองไทยอย่าง สิงห์พยัคฆ์ ดีเซลเล็ก ซุปเปอร์บอล เดชฤทธิ์ ภพธีรธรรม ลูกศิษย์ของสามารถ พยัคฆ์อรุณ เพชรทนง ลูกศิษย์ของบัวขาว รวมทั้ง น้องน้ำตาล น้องปาย ที่ได้รับการเรียนการสอนมวยจากมหาวิทยาลัยหมู่บ้านราชภัฏจอมบึงและการกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นผู้เขียนหลักสูตรให้”
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากอาจารย์ยงศักดิ์ ณ สงขลา ผู้ตัดสินคนไทยคนเดียวในการแข่งขันครั้งนี้และคุณบรรจบ วชิรปางกูล (ป๋าบอล ลูกพ่อขุน) ที่นำทีมนักมวยในสังกัดมาขึ้นชกในครั้งนี้

อาจารย์ยงศักดิ์ ณ สงขลา ผู้ตัดสินบนเวที
“ผมขอพูดถึงมวยไทยในภาพรวมนะครับการจัดงานครั้งนี้คาดหวังในหลายๆ อย่าง นอกจากจะเป็นการโปรโมทมวยไทยอย่างที่ท่านอื่นๆ ได้
พูดไปแล้ว ผมอยากให้มุ่งเน้นทางด้านภาพลักษณ์ของประเทศไทยด้วย มวยไทย คือ วัฒนธรรมของคนไทย ซึ่งเอกลักษณ์ของไทยนั้นมีไม่กี่อย่างที่เข้าสู่สายตาชาวโลก อาหารไทย นวดไทย แล้วก็มีมวยไทยนี่แหละที่สร้างชื่อเสียงมวยไทยมันเป็นสมบัติที่มีค่า เป็นสิ่งที่แสดง
ถึงวัฒนธรรม ทำให้ฝรั่งต่างชาติรู้ถึงวัฒนธรรมเราอย่างง่ายๆเลย

ฝรั่งที่เขามาเรียนมวยไทย สิ่งที่เขาทำเป็นอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องบอกคือการยกมือไหว้สวัสดีคนไทย มีการไหว้ครู เคารพครู เขาเรียนรู้และซึมซับได้เอง อีกจุดคือ ในเรื่องของการเปิดตลาด รายได้นำเข้าหลักตอนนี้คือการท่องเที่ยว ภาพลักษณ์ตรงนี้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อยอดชาวต่างชาติไปฝึกมวยที่เมืองไทยด้วยการจัดงานครั้งนี้จึงได้ทั้งภาพลักษณ์ประเทศไทยรายได้นักกีฬา และรายได้ของประเทศครับ”
”ฝรั่งที่เขามาเรียนมวยไทย สิ่งที่เขาทำเป็นอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องบอกคือการยกมือไหว้สวัสดีคนไทย มีการไหว้ครู เคารพครู เขาเรียนรู้และซึมซับได้เอง เราได้มีโอกาสนำวัฒนธรรมเรามาเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติที่นี่ได้เห็น และก็เป็นการให้ความสุขกับคนไทยที่นี่ด้วย อีกส่วนคือ มันเป็นส่วนช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย”

คุณบรรจบ วชิรปางกูล เทรนเนอร์ของ ซูปเปอร์บอล ลูกเจ้าแม่สาวลี
“ผมมาครั้งนี้ได้นำมวยเอกในสังกัดมาชกด้วย ซูปเปอร์บอล ลูกเจ้าแม่สาวลีซึ่งชกเป็นคู่เอก ผมมีหน้าที่ดูแลนักมวย อำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งผมไม่ได้กำหนดอะไรเขามาก นักมวยทั้งหลายเขาเติบโตมาด้วยระเบียบในตัวเองอยู่แล้ว เขารู้ตัวอยู่แล้วว่าเช้าตื่นมาต้องทำอะไร กิน นอน ฝึกซ้อมเวลาไหน

วันนี้เราได้มีโอกาสนำวัฒนธรรมเรามาเผยแพร่ให้ชาวต่างชาติที่นี่ได้เห็น และก็เป็นการให้ความสุขกับคนไทยที่นี่ด้วย อีกส่วนคือ มันเป็นส่วนช่วยสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยกับออสเตรเลีย เพราะปกติแล้วชาวออสเตรเลียก็ไปซ้อมมวย เรียนมวยที่ประเทศไทยเยอะมาก ตอนนี้ก็มียิมมวยไทยเปิดในออสเตรเลีย ซึ่งก็คือลูกศิษย์ของเราที่ไปเรียนเมืองไทยแล้วกลับมาเปิดธุรกิจนี้
การมาชกครั้งนี้จึงทำให้คนออสเตรเลียได้เห็นว่าที่เขาไปร่ำเรียนมานั้น เขาเก่งแค่ไหน เขาเป็นส่วนช่วยสานต่อให้คนออสเตรเลียเห็นว่าเขาเป็นฮีโร่ให้คนออสเตรเลียไปเรียนที่เมืองไทยมากขึ้นครับ เราก็ได้มีโอกาสถ่ายทอด วัฒนธรรมของเรา ประเพณีของเราให้กับเขามากขึ้นครับ”

นักชก Real Hero
เดชฤทธิ์ ภพธีรธรรม
รุ่น 70 กก. สังกัดค่ายมวยภพธีรธรรม
มีความพร้อม เตรียมตัวมาดี อยู่ไทยต่อยเวทีลุมพินี ราชดำเนิน เรื่องการซ้อมจะไม่ได้ซ้อมหนักเหมือนอยู่ที่ไทย เนื่องด้วยสภาพอากาศที่แตกต่างกัน และไม่มีอุปกรณ์ครบครัน ความน่ากลัวของคู่ต่อสู้ คิดว่าไม่น่ามีปัญหา ไม่กดดันเท่าต่อยกับคนไทยแต่ก็ไม่ประมาท
ยอดแสนพล ป.บูรพา
รุ่น 70 กก. สังกัดค่ายมวยป.บูรพา
พร้อมกับการชกในครั้งนี้ อยู่ไทยต่อยแถวชลบุรี ภาคอีสานสภาพอากาศ สภาพแวดล้อมไม่เป็นอุปสรรคต่อในการชกครั้งนี้ แต่มีปัญหาเรื่องเวลาที่ต่างจากไทย ในเรื่องเวลากิน เวลานอน ความน่ากลัวของคู่ต่อสู้ คิดว่าเอาชนะได้ แต่มีห่วงนิดหน่อยเพราะเขาเป็นฮีโร่ของคนที่นี่

ศักดิ์ชาย อ.บุญเลิศ
รุ่น 76 กก. สังกัดค่ายมวย อ.บุญเลิศ สุพรรณบุรี
อยู่ไทยต่อยตามภูธร ความพร้อม100% เตรียมตัวมาเต็มร้อย
ทุกอย่างที่นี่ไม่เป็นปัญหาต่อการเป็นอยู่เลย คล้ายเมืองไทยมากโดยเฉพาะอาหาร อยู่ได้แบบสบายๆ ยังไงก็ขอให้คนไทยช่วยเชียร์คนไทยด้วยกันนะครับ
ปาย ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ชกมวยมาตั้งแต่อายุ 12 ปี ชกในรุ่น 51 กก. ความมั่นใจตอนนี้ 100% คิดว่าน่าจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ แต่ตอนนี้ยังปรับตัวในเรื่องของเวลาไม่ค่อยได้ กลางคืนนอนไม่ค่อยหลับ อากาศก็ยังหนาวอยู่ แต่ไม่มีปัญหาในเรื่องของอาหารการกิน การเดินทางไปซ้อมจากโรงแรมไปไกลพอสมควร

น้ำตาล ม.ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง
ชกในรุ่น 59 กก. น้ำหนักขาดไป 3 กก. ความมั่นใจตอนนี้ 50:50 เนื่องจากกังวลเรื่องของน้ำหนักตัวซึ่งเสียเปรียบคู่ต่อสู้ สถานที่ซ้อม
ก็ซ้อมไม่เต็มที่เหมือนเมืองไทย อีกทั้งยังขาดบุคลากรที่ดี ขาดอุปกรณ์เป้าซ้อมเลยต้องซ้อมกันเอง กติกาก็ไม่เหมือนกัน ชกครั้งนี้จะต่อยกันแค่ 3 ยกเท่านั้น